จากรายงานด้านปริมาณการใช้งานเครือข่ายทั่วโลกปี 2573 ของโนเกีย (Nokia Global Network Traffic 2030 Report) ระบุว่า ความต้องการด้านเครือข่ายโทรคมนาคมทั่วโลกจะเติบโตขึ้น จากอัตราการเติบโตของพอร์ตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 22-25% โดยในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้ โนเกีย ระบุว่า อัตรา CAGR จะสูงถึง 32%
นอกจากนี้ความต้องการปริมาณการใช้เครือข่ายทั่วโลกถูกคาดการณ์ว่าจะสูงถึง 2,443 ถึง 3,109 เอกซะไบต์ (EB) ต่อเดือนในปี 2573 ในกรณีที่มีอัตราการใช้งานของคลาวด์เกมมิ่งและ XR ที่สูงขึ้น รวมถึงปริมาณการใช้งานข้อมูลในเครือข่าย (Network traffic) กำลังเติบโต และจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โดยโนเกีย ได้ระบุเทรนด์สำคัญๆ ที่มีอิทธิพลต่อกลยุทธ์เทคโนโลยี 2573 อาทิ
โดยเทรนด์ทั้งหมดเหล่านี้ต่างต้องอาศัยเครือข่ายที่มีการตอบสนองและความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม และจะต้องตอบรับกับความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ต้องมีความชาญฉลาดและเป็นอัตโนมัติ ผ่านการใช้ประโยชน์จาก AI และ ML (Machine Learning)
ตลอดจนตอบสนองความต้องการและรูปแบบการดำเนินงานที่จะเปลี่ยนแปลงขององค์กรและลูกค้า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่าง XR และคู่แฝดดิจิทัล ผนวกเข้ากับ Web3 และนวัตกรรมอื่นๆ ที่ได้รับการกล่าวขานมากมายกำลังถือกำเนิดขึ้น
นิชันต์ ภัทรา ประธานเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยีของโนเกีย เปิดเผยว่า กลยุทธ์เทคโนโลยี 2573 ของโนเกีย จะชี้ให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมเครือข่ายแห่งอนาคต สำหรับลูกค้าของเรา รวมถึงภาคอุตสาหกรรม
เพื่อตอบสนองโดยตรงต่อความแพร่หลายของเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยจะเน้นความสำคัญกับการใช้งานเอไอ คลาวด์ การเชื่อมต่อ และเศรษฐกิจดิจิทัลด้วย API ซึ่งถือเป็นกรอบการทำงานแบบหนึ่งที่ผู้ให้บริการและองค์กรจะต้องยอมรับ
“อุตสาหกรรมผู้ให้บริการจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองจากการทำงานแบบเดิมๆ ที่มีโครงสร้างบูรณาการแบบดั้งเดิมในแนวตั้ง ไปเป็นโครงสร้างการทำงานแห่งอนาคตที่เป็นโครงสร้างแบบแนวนอน และขับเคลื่อนด้วย API ที่จะช่วยในการส่งมอบบริการที่ยั่งยืน ง่ายดาย สามารถปรับเปลี่ยน มีความเป็นอัตโนมัติ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นได้”