สำนักข่าว Nikkei Asia ระบุว่า Infocomm Media Development Authority ( IMDA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลและผู้พัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ร่วมกับ Lee Kuan Yew School of Public Policy และมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) ได้ร่วมกันวัดขนาดของเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นทางการครั้งแรก โดยในปี 2565 เศรษฐกิจดิจิทัลมีมูลค่ารวมกว่า 1.06 แสนดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 7.73 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% ในช่วงห้าปี
โดยหน่วยงานเศรษฐกิจดิจิทัลสิงคโปร์ (Singapore Digital Economy) เปิดเผยว่า มูลค่าเพิ่มหรือการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจผ่านดิจิทัล คิดเป็น 17.3% ของ GDP ทั้งหมดของประเทศในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 13% ในปี 2560 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าเอสโตเนีย 16.6% สวีเดน 15% และอังกฤษ 16.1% ตามลำดับ
ซึ่งแต่ละประเทศมีแนวทางการวัดที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่มักพิจารณาถึงมูลค่าเพิ่มจากการลงทุนในทุนดิจิทัลจากฮาร์ดแวร์ เช่น คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอที ตลอดจนซอฟต์แวร์ในภาคข้อมูลและการสื่อสาร ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มีการเติบโตสูงมาก และคิดเป็นหนึ่งในสามของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ (5.4% ของ GDP ทั้งหมด)
ปัจจัยหลักจากการออกนโยบายส่งเสริมสนับสนุนการขับเคลื่อนด้านเทคโนโลยี และความพยายามในการดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก รวมถึงแรงงานทักษะสูงจากทั่วโลก ขณะเดียวกันยังได้รับส่วนร่วมจากประชากรสูงวัยชาวสิงคโปร์ที่มีทักษะสูงอีกด้วย
Lew Chuen Hong ผู้บริหารระดับสูงของ IMDA กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศ “ทำให้ประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโปร์ ก้าวข้ามข้อจำกัดทางกายภาพทุกรูปแบบ” ทำให้ผู้บริโภคและตลาดต่างๆ ทั่วโลกเข้าถึงได้ โดย IMDA จะเพิ่มความพยายามของเราเป็นสองเท่าและทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรม ภาคแรงงาน สถาบันการศึกษา และหน่วยงานวิจัย เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันของสิงคโปร์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล ได้สร้างการเติบโตในภาคแรงงานดิจิทัลที่มีอยู่ราว 200,000 คน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนในภาคเทคโนโลยีที่ชาวสิงคโปร์ได้รับอยู่ที่ 7,376 ดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งสูงกว่าค่าจ้างเฉลี่ยโดยรวมที่ 4,500 ดอลลาร์สิงคโปร์ของอาชีพทั่วไป นอกจากนี้ล่าสุดรัฐบาลยังได้ประกาศลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มอีก 25 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ 18 ล้านดอลลาร์จนถึงปี 2568
อ้างอิง Nikkei Asia