เริ่มต้นไปแล้วกับมหกรรมกีฬาระดับโลก “Paris 2024” หรือโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 2024 ที่จัดขึ้น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และความน่าติดตามของโอลิมปิกครั้งนี้ต้องยอมรับว่าไม่ได้มีเพียงแต่เรื่องกีฬา แต่ยังรวมไปถึงวิธีการจัดงานของเจ้าภาพ ที่ทำให้ Paris 2024 กลายเป็นเกมที่น่าสนใจ
หนึ่งในความน่าสนใจของงานกีฬาครั้งนี้คือเรื่องของ Carbon Neutral ที่เจ้าภาพตั้งเป้าจัดงานโอลิมปิกโดยที่ปล่อยคาร์บอนน้อยที่สุดครั้งแรกของโลก ซึ่งจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50% จากโอลิมปิกใน ริโอ เดอ จาเนโร ปี 2016 หรือปล่อยที่ประมาณ 1.75 ล้านตันคาร์บอนเทียบเท่า
ด้วยการตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงนี้ยังส่งผลดีต่อการจัดงานในด้านอื่นๆ อีกด้วย โดย S&P Global ได้มีรายงานออกมาว่า “Paris 2024” ยังเป็นโอลิมปิกที่จะใช้งบประมาณในการจัดงานน้อยกว่าเจ้าภาพอื่นๆ ที่จัดมาก่อนหน้า
ในการจัดงานโอลิมปิกแต่ละครั้งต้องยอมรับว่าสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศเจ้าภาพได้เป็นอย่างดี ทั้งจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไปชมกีฬา แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล จนเจ้าภาพบางประเทศต้องตามชำระหนี้หลังจากงานจบแล้วกันเลยทีเดียว
แต่กับ ฝรั่งเศส ในปี 2024 นี้มีคาดการณ์ว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้นอยู่ที่ 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน้อยกว่า โตเกียว ปี 2020 และปักกิ่ง ปี 2008 หลายเท่าตัว ซึ่งหากนับตั้งแต่โอลิมปิกปี 2000 เจ้าภาพแต่ละที่ใช้งบไป ดังนี้
ปกติแล้วงบในการลงทุนเพื่อจัดโอลิมปิด รัฐบาลแต่ละประเทศจะมีการจัดหาเงินทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนเข้ามารวมกัน โดย Paris 2024 จะสามารถแบ่งเงินทุนได้เป็น 2 ส่วน คือ เป็นเงินจากเอกชน 48.9% ในขณะที่รัฐบบาลกลาง ปารีส และรัฐบาลท้องถิ่นลงทุนประมาณ 51.2%
ซึ่งงบประมาณที่ปารีสตั้งไว้ทั้งหมดอยู่ที่ 9.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่ากับ 0.3% ของ GDP ฝรั่งเศส ปี 2024 โดยจะแบ่งใช้กับการก่อสร้างประมาณ 4.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และใช้ในการจัดงานกีฬาอีก 4.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และหากลองเทียบกับเจ้าภาพในปีก่อนๆ จะพบว่ามีหลายประเทศที่ต้องขาดทุนจากการจัดโอลิมปิก ยกตัวอย่างเช่น ลอนดอน ปี 2012 ที่ใช้งบเกินไปว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ โตเกียว ปี 2020 ใช้งบเกินไปกว่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (เนื่องจากเป็นการจัดงานในช่วงโควิด-19) และริโอ เดอ จาเนโร ของบราซิล ก็ได้รับผลกระทบจากการใช้งบประมาณมากเกินไปจนต้องใช้หนี้ และสร้างผลกระทบให้กับการเงินของประเทศ
โอลิมปิกครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ของปารีส ซึ่งเคยจัดขึ้นแล้วสองครั้งในปี 1904 และปี 1924 ผ่านมาร้อยปีก็กลับมาจัดอีกครั้ง โดยการจัดในครั้งนี้ได้มีการจัดแบ่งงบไปในด้านต่างๆ
โดยงบที่ใช้ในโปรเจกต์ก่อสร้าง ได้แก่ สร้างหมู่บ้านนักกีฬา (Olympics Village) ใช้งบประมาณ 1.62 พันล้านดอลลาร์ สร้างศูนย์กีฬาทางน้ำ (Aquatics Center) ใช้งบประมาณ 189 ล้านดอลลาร์ สร้างสนามแข่งแบดมินตันและยิมนาสติกใหม่ ประมาณ 149 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังมีงบที่ลงไปเพื่อทำความสะอาดแม่น้ำแซน เนื่องจากแม่น้ำแซนมีการปนเปื้อนและมีมลพิษสูง ส่งผลให้หน่วยงานรัฐท้องถิ่นต้องกำจัดน้ำทิ้ง และติดตั้งแท็งก์น้ำใหม่เพื่อบำบัด ซึ่งใช้งบไปประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ปารีส เป็นเมืองที่มีการจัดสรรพื้นที่ และจัดการระบบการขนส่งเดิมดีอยู่แล้ว ทำให้ 95% ของพื้นที่ในการจัดโอลิมปิก คือ โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งก่อสร้างเดิม ต้องอาศัยเพียงการปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้น หรือบางแห่งก็สร้างขึ้นมาแบบชั่วคราว และสามารถรื้อถอนได้ในภายหลัง ทำให้ปารีสใช้งบประมาณที่น้อยกว่าประเทศอื่นๆ ในการจัดงาน
และยังมีคาดการณ์อีกว่า ปารีส จะสามารถทำกำไรจากการจัดโอลิมปิกครั้งนี้ได้อีกด้วย โดยเงินจะหลั่งไหลมาจากภาษีมูลเพิ่มที่เก็บจากการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.2% ในปี 2024 นี้ นอกจากนี้จะยังมีรายได้จากอัตราการเข้าพักในโรงแรมที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย.
ที่มา: S&P Global Ratings
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney