เทรนด์ลงทุนเปลี่ยนไป คนจีนรุ่นใหม่ มองอสังหาฯ และหุ้น ไม่ตอบโจทย์สร้างความมั่งคั่ง เหมือนยุคพ่อแม่

Personal Finance

Wealth Management

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เทรนด์ลงทุนเปลี่ยนไป คนจีนรุ่นใหม่ มองอสังหาฯ และหุ้น ไม่ตอบโจทย์สร้างความมั่งคั่ง เหมือนยุคพ่อแม่

Date Time: 21 เม.ย. 2566 15:05 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • การลงทุนในอสังหาฯ และหุ้น คือกุญแจสู่ความมั่งคั่งของคนจีนในอดีต ในยุคที่คนรุ่นใหม่สร้างตัวยาก การลงทุนแบบเดิมอาจไม่ใช่คำตอบ คนจีนรุ่นใหม่จึงต้องหาแนวทางของตัวเอง

Latest


หนทางสู่ความมั่งคั่งของคนจีนในอดีต คือ การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรอย่างอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น แต่วิกฤตการณ์โควิดได้สร้างความผันผวนทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก ส่งผลให้มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ตลาดหุ้น ตกต่ำลง การลงทุนแบบเดิมในรุ่นพ่อแม่ให้ผลตอบแทนไม่ทันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มุมมองการลงทุนของคนจีนรุ่นใหม่จึงเปลี่ยนไป 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริษัทชั้นนำด้านการเงินในสหรัฐและยุโรปต่างเห็นโอกาสในการทำธุรกิจกับคนจีนรุ่นใหม่ ซึ่งได้รับการศึกษาในระดับสูงทำให้มีรายได้สูงตาม โดยคาดการณ์ว่าจะกลายเป็นคนกลุ่มใหญ่ ที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงในอนาคต สอดคล้องกับบริษัทให้คำปรึกษาด้านการเงิน China Renaissance ที่คาดการณ์ว่าภายในปี 2578 คนจีนรุ่นใหม่จะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 4 เท่า หรือประมาณ 16 ล้านล้านหยวน (2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากปัจจุบันที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่ช่วยขับเคลื่อน อุตสาหกรรมค้าปลีกจีนให้เติบโตโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับความงามและการท่องเที่ยว

แม้สถิติการออมเงินของครัวเรือนจีนจะเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ แต่ในขณะเดียวกันคนจีนรุ่นใหม่ก็ยังมองว่าการลงทุนเป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนชีวิต ที่จะช่วยยกระดับสถานะความเป็นอยู่ได้ ทำให้มีการคาดการณ์ว่าหนุ่มสาวชาวจีนจะเริ่มเทเงินเข้า สู่ตลาดการเงินซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนทรัพย์สินให้เป็นแหล่งความมั่งคั่งทั่วประเทศ โดยระหว่างปี 2564 ถึง 2573 จะมีกระแสเงินสะสมจากครัวเรือนจีนไหลเข้าสู่ตลาดการเงินมากกว่า 18 ล้านล้านดอลลาร์ ตามการคาดการณ์ของหัวหน้าฝ่ายวิจัยทางการเงิน ของโบรกเกอร์ CLSA Ltd. ในจีน

วิกฤตการณ์โลกในปัจจุบันและมาตรการควบคุมเงินทุนไหลออกของรัฐบาลจีน ได้เพิ่มความกดดันให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างตัว ไม่ว่าจะเป็น การจำกัดการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ การแบนคริปโตเคอร์เรนซี ในขณะที่พันธบัตรให้ผลตอบแทนไม่เพียงพอ รวมถึงรัฐบาลจีนได้ปิดทางเลือกการให้กู้ยืมแบบ peer-to-peer ที่เคยดึงดูดนักลงทุนมากกว่า 50 ล้านคน ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้มุมมอง การลงทุนของคนรุ่นใหม่ในจีนเปลี่ยนไปพวกเขามองว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นไม่ตอบโจทย์การสร้างความมั่งคั่งในปัจจุบันอีกต่อไป 

มองหาผู้ช่วยการลงทุน

จากรายงานของหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีน พบว่าในปี 2561 มีนักลงทุนรายย่อยในตลาด คิดเป็น 82% หลังจากตลาดหุ้นเผชิญความผันผวนอย่างรุนแรงในช่วงโควิดทำให้ในปี 2565 นักลงทุนรายย่อยลดลงกว่า 60% คนจึงหันมาสนใจลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น โดยปัจจุบันมีการเปิดขายกองทุนรวมมากกว่า 13,000 ซึ่งเพิ่มขึ้นห้าเท่าจากปี 2558 ส่งผลให้ผู้จัดการกองทุนรวมได้รับความนิยมตามไปด้วย

ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด รายการไลฟ์สตรีมแนะนำการลงทุนที่จัดโดยผู้จัดการกองทุนรวมได้รับความนิยมอย่างมาก โดยยอดรับชมกว่า 60% มาจากกลุ่มคนจีนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 39 ปี Jiahui Wang พิธีกรของ China Asset Management Co. ซึ่งมีผู้ชมมากกว่า 45 ล้านครั้งและกดถูกใจ 1.1 ล้านครั้งในปีที่ผ่านมา ให้ความเห็นว่า การแบ่งแยกระหว่างรุ่นกำลังเข้มข้นขึ้น เมื่อเปรียบเทียบความนิยม ของรายการบนแพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ช Xiaohongshu ซึ่งผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีอายุ รายการที่มีธีมเกี่ยวกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จึงได้รับความนิยม ในขณะที่แพลตฟอร์มวิดีโอ Bilibili ซึ่งใช้งานโดยคนรุ่นใหม่ วิดีโอที่นำเสนอเกี่ยวกับข้อเสียการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ จะได้รับความนิยมมากกว่า นอกจากนี้คนจีนรุ่นใหม่ยังนิยมซื้อสินทรัพย์ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น การซื้อกองทุนผ่านแพลตฟอร์ม Alipay

ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนรุ่นใหม่ต้องการคำแนะนำ เพื่อหาทางเลือกในการลงทุน ในขณะที่คนรุ่นเก่า มักลงทุนในสินทรัพย์ที่แนะนำโดยธนาคารเป็นหลัก 

ลงทุนตามความชอบและสิ่งที่เชื่อ

คนจีนรุ่นใหม่มีแนวคิดในการลงทุนที่แตกต่างจากรุ่นพ่อแม่อย่างสิ้นเชิง เพราะมองว่าไม่สามารถสร้างความมั่งคั่งด้วยวิธีการลงทุนแบบเดียวกับพ่อแม่ได้พวกเขาจึงมองหาวิธีการลงทุนใหม่ๆ ความกระตือรือร้นที่จะสร้างความมั่งคั่ง ส่งผลให้พวกเขากล้าที่จะยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุน หากเห็นโอกาสที่จะได้รับ ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาไม่นาน โดยเน้นการลงทุนแบบ All in ในสิ่งที่พวกเขาให้ความสนใจ หรือเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบที่ดี โดยกระจายการลงทุนไปในหลายสินทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นหุ้น หุ้นกู้แปลงสภาพ คริปโตเคอร์เรนซี และของสะสม แทนที่จะกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนเงินจำนวนเท่าๆ กันในสินทรัพย์เดียว แบบรุ่นพ่อแม่ที่เน้นลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นและอสังหาริมทรัพย์

หุ้นกู้แปลงสภาพเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักลงทุนรายย่อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ เนื่องจากมีการประกันการคืนเงินต้น และการจ่ายดอกเบี้ยผลตอบแทนรายปีอีกทั้งยังมีโอกาสทำกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น นอกเหนือจากอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ โดยให้ความสนใจลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี วัฒนธรรมและความบันเทิง ส่งผลให้ขณะนี้จีนเป็นตลาดตราสารหนี้แปลงสภาพที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ซึ่งมีการจัดอันดับและซื้อขาย จากข้อมูลของ Union Bancaire Priveé ผู้จัดการความมั่งคั่งชาวสวิส 

อ้างอิง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ