กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) หลักประกันทางการเงินในวัยเกษียณ หนึ่งในแผนการออมเงินที่มั่นคงและเป็นระบบของ “มนุษย์เงินเดือน” โดยนายจ้างจะสมทบเงินเพิ่มจากส่วนของลูกจ้าง และมีบริษัทจัดการลงทุนคอยบริหารเงินกองทุนนี้ให้เติบโต
เมื่อถึงช่วงวัยเกษียณการถอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีวิธีการบริหารเงินหลายรูปแบบ โดย วิภา เจริญกิจสุพัฒน นักวางแผนการเงิน (CFP) เผยแพร่บทความผ่านสมาคมนักวางแผนการเงินไทยไว้ว่า การจัดสรรเงินออกเป็นพอร์ตการลงทุนตามความเสี่ยงต่าง ๆ หรือลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการจ่ายเงินปันผล เป็นอีกหนึ่งวิธีเพื่อให้สามารถใช้จ่ายและสร้างความมั่นคงทางการเงินได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ หากมีความจำเป็นต้องถอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพออกมาก่อน ต้องคำนึงถึงผลกระทบทางการเงินในระยะยาว ซึ่งนักวางแผนการเงินได้แนะนำแนวทางที่สามารถช่วยให้ลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้
วิภา เจริญกิจสุพัฒน นักวางแผนการเงิน (CFP) ระบุว่า การถอนเงินออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ต้องเป็นสมาชิกกองทุนไม่ต่ำกว่า 5 ปี และอายุ 55 ปีบริบูรณ์ จึงจะถอนโดยไม่ติดเงื่อนไขภาษี
กรณีถอนก่อน มี 2 ลักษณะ คือ 1.เป็นสมาชิกไม่ถึง 5 ปี ต้องนำไปรวมกับรายได้ปกติยื่นภาษีต้นปี และ 2.เป็นสมาชิกเกิน 5 ปี และถอนก่อนอายุ 55 ปีบริบูรณ์ สามารถเลือกแยกยื่นเป็นใบแนบ ภงด.90/91 ได้ โดยแยกคำนวณจากเงินได้ปกติ ซึ่งจำนวนเงินที่นำมาคำนวณภาษี คือ ส่วนนายจ้างสมทบและผลประโยชน์ทั้งหมด
หากมีความจำเป็นต้องออกจากการเป็นสมาชิกก่อนอายุ 55 ปีบริบูรณ์ เช่น ออกจากงาน ไม่ต้องการผิดเงื่อนไข มีทางเลือก 2 วิธี ได้แก่
นักวางแผนการเงิน ระบุว่า หลังเกษียณจำเป็นต้องจดค่าใช้จ่าย และทำงบประมาณรายรับรายจ่ายใหม่ เนื่องจากโครงสร้างรายจ่ายเปลี่ยน และยังคงต้องมีเงินสำรองฉุกเฉินอยู่ ทยอยถอนต้นปีเท่ากับค่าใช้จ่ายในปีนั้น
พร้อมกันนี้ ให้แนะนำว่า ควรคงเงินไว้ในพอร์ตลงทุน ซึ่งมีวิธีบริหารจัดการหลายวิธี เช่น
1.คงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีค่าใช้จ่าย 500 บาทต่อปี ขอให้ผู้จัดการกองทุนจ่ายเป็นรายงวด ปรับสัดส่วนการลงทุนตราสารความเสี่ยงต่ำ 80 - 90% ตราสารความเสี่ยงสูง 10 - 20%
2.ถอนทั้งก้อนบริหารแยกเงินเป็น 3 พอร์ต แบ่งเป็น พอร์ต 1 ความเสี่ยงต่ำ, พอร์ต 2 ความเสี่ยงปานกลาง และพอร์ต 3 ความเสี่ยงสูง
3.ถอนทั้งก้อนไว้พอร์ตลงทุนจ่ายเงินปันผลเฉลี่ย 3.5 - 4% ของเงินต้น และเติบโต 2 - 3% ต่อปี
หลายคนที่มีประสบการณ์การออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะเห็นว่าเงินออมก้อนนี้เป็นเงินออมก้อนใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับเงินอ้อมก้อนอื่น ๆ เพราะเก็บอย่างเป็นระบบ เก็บแล้วเก็บเลย เก็บเพื่อเก็บ
อย่างไรก็ดี การออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นเครื่องมือการออมที่มีประสิทธิผล สะดวก ง่าย และปลอดภัย นายจ้างช่วยเติมเงินสมทบ เงินออมเพิ่มตามรายได้ มี บลจ. ช่วยบริหารเงินให้เติบโต ปลอดภัยโดยโครงสร้างการบริหารจัดการ ช่วยให้ผู้มีรายได้ให้เวลากับการทำงานและครอบครัวได้อย่างสบายใจ และสามารถใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างที่ฝัน
อ่านข่าวการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้