เทรนด์ประกันยุคใหม่ เหมาจ่าย หรือ รายชิ้น ต้องเลือกได้

Personal Finance

Insurance

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เทรนด์ประกันยุคใหม่ เหมาจ่าย หรือ รายชิ้น ต้องเลือกได้

Date Time: 31 ก.ค. 2566 09:53 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • ต้องยอมรับว่า “ประกันสุขภาพ” และ “ประกันชีวิต” เป็นตัวช่วยดึงความสนใจมากขึ้น ซึ่งก่อนเกิดสถานการณ์โควิดก็นับว่ามีความสนใจที่มากขึ้นอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดทำให้คนเห็นภาพว่าต้องมีความคุ้มครองสุขภาพ จึงถือเป็นหมวกนำ

Latest


อย่างไรก็ดีเรื่องของประกันชีวิตก็ยังเป็นตัวพื้นฐานที่คนเห็นคุณค่ามากขึ้น รวมทั้งในมิติที่หลักการซัพพอร์ตคนข้างหลัง หรือคนในครอบครัว อีกด้านหนึ่งคือการพัฒนาในเชิงรูปแบบประกันที่ยกระดับมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลายๆ บริษัทประกันพยายามจะใช้หลักการ “ความต้องการของแต่ละบุคคล” เป็นที่ตั้ง และต้องยอมรับว่าในเรื่องของ Big Data ข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ที่ได้รับความยินยอม และมีการนำไปพัฒนาแบบประกันที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวมากขึ้น


เทรนด์ประกันจะไปในทิศทางไหน?

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) ในฐานะนายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผย “ThairathMoney” ว่า หากดูในสัดส่วนของกรมธรรม์ประกันชีวิตเทียบกับประชากรจะพบว่ายังอยู่ในตัวเลขประมาณ 38-39% ซึ่งเบี้ยประกันชีวิตที่มีส่วนช่วยให้กับทางด้าน GDP อยู่ประมาณ 3.9% เทียบเคียงกับหลายประเทศที่ค่อนข้างจะพัฒนาในหลักของประกัน จะเห็นได้ว่าอัตรามีตั้งแต่มีส่วนช่วยใน GDP ประมาณ 5-6% จึงนับว่ามีโอกาสในเรื่องพวกนี้อีกมาก


ขณะที่บางประเทศอัตราส่วนของคนถือประกันเรียกได้ว่าอาจจะถึง 100% แต่ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่คนเห็นประโยชน์มากขึ้น ส่วนประเทศไทยแนวโน้มยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทั้งเรื่องของความจำเป็นในแง่ของสุขภาพ และการที่คนมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น การเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ผ่านช่องทางทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ รวมทั้งการพัฒนาในหลากหลายมิติของประกัน และการบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่มากขึ้น 


ทิศทางของเทรนด์ประกันที่เกี่ยวกับโรคร้ายแรง?

ส่วนทิศทางผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตนั้น ภาคธุรกิจมองว่าผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่จะได้รับความนิยม และมีศักยภาพในการเติบโตสูง คือ ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health & CI) เนื่องจากมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และมีการบริการหลังการขายที่ครบวงจร (ทั้งระบบ online และ offline) เช่น telemedicine บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน (SOS) ฯลฯ โดยได้เชื่อมต่อกับระบบของโรงพยาบาลทำให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบทุกความต้องการและทุกกลุ่มเป้าหมาย


เพราะเรื่องของประกันโรคร้ายแรงเป็นที่สนใจของคนหมู่มาก ซึ่งต้องยอมรับว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีในการรักษาทางด้านการแพทย์มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่จะทำยังไงให้มีการรองรับในเรื่องตรงนี้ได้ นอกจากสวัสดิการพื้นฐานที่ทุกคนมี ทั้งนี้ทั้งนั้นการคุ้มครองสุขภาพที่มีส่วนควบกับประกันชีวิต ซึ่งมีการทำในเรื่องของโรคร้ายแรงต่างๆ ฉะนั้นการที่มีความคุ้มครองสุขภาพควบกับประกันชีวิตก็เป็นส่วนช่วยด้วยเช่นกัน 


รวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Universal Life และ Unit Linked) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ ที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นภายใต้ระดับความเสี่ยงที่พอรับได้ รวมถึงได้รับความคุ้มครองจากการประกันชีวิตรวมอยู่ด้วย


5 อันดับของโรคที่เคลมมากที่สุด?

ในแง่ของสุขภาพ ทั้งเรื่องของ “หวัด” “ไส้ติ่ง” เป็นโรคพื้นฐาน หรือ Simple Disease เพราะมีโอกาสที่ทุกคนเป็นได้ง่ายมาก และเข้าถึงสถานพยาบาลได้ง่าย 

ส่วนโรคอื่น อาทิ มะเร็ง หัวใจ สมอง และเบาหวาน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เห็นอยู่บ่อยครั้ง ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าโรคพื้นฐานจะเป็นโรคที่เคลมเยอะสุด 


ในขณะเดียวกันโรคที่จะต้องดูแลอย่างต่อเนื่องทั้งโรคเบาหวาน หรือโรคทางกรรมพันธุ์ และไปจนถึงโรคร้ายแรง เป็นเบสิกที่เราเห็น 

ฉะนั้นในแง่ของแบบประกันให้ความคุ้มครองในเรื่องพวกนี้ รวมทั้งการพัฒนาแบบประกันสุขภาพมีหลายๆ รูปแบบมากขึ้น ทั้งการจำกัดเรื่องค่ารักษา หรือแบบเหมาจ่าย และสามารถซื้อเพิ่มเฉพาะโรคร้ายแรงได้อีกด้วย รวมถึงเรื่องของการชดเชยรายได้ หรือ OPD ด้วยเช่นกัน 

จึงเรียกได้ว่าจะซื้อเป็น Combo หรือ A La Carte ก็ได้

จากตัวเลขที่เติบโตขึ้นในช่วงต้นปีสะท้อนให้เห็นว่าคนมองความมั่นคงของชีวิตมากขึ้น แล้วแนวโน้มในอนาคตของธุรกิจประกันจะเป็นไปในทิศทางไหนนั้น คุณสาระ มองว่า ยังมีโอกาสอีกเยอะ เพราะ ณ วันนี้คนไทยเห็นภาพในการวางแผนที่จะสร้างความมั่นคงผ่านทางด้านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตมากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าคนมีการทำ Life plan หากวันใดไม่มีชีวิตอยู่ การบริหารทรัพย์สินให้กับทายาทจะยังคงดำเนินต่อไปได้


อีกทั้งในเรื่องของสินไหมประกันชีวิตที่จะมาช่วยรองรับในเรื่องของภาระ อย่างเช่น ภาษีมรดก ภาษีที่ดิน ดังนั้นหากผู้บริโภคมีการบริหารจัดการการวางแผนที่ดีจะทำให้โอกาสเติบโตมากขึ้น รวมทั้งสังคมสูงวัยที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ภาพรวมธุรกิจประกันเติบโตด้วยเช่นกัน 


และต้องยอมรับว่าประกันชีวิตในวันนี้มีอะไรที่สามารถพัฒนาได้มากขึ้น อาทิ ความคุ้มครองที่ตัวเบี้ยประกันสามารถตอบโจทย์ในแง่ของกำลังซื้อ หรือกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงวัย ดังนั้นด้วยโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป จึงต้องสนับสนุนให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงความคุ้มครองของประกันสุขภาพได้ จึงได้มีการขยายความคุ้มครองไปถึง 99 ปี


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างบริษัทประกันจะต้องสร้างความมั่นคงได้ เพราะพันธสัญญาที่เอากับผู้ทำประกันเป็นระยะยาว ฉะนั้นการบริหารความเสี่ยง การทำเบี้ยประกันที่เหมาะสมในแบบที่ใช่ และอีกมุมหนึ่งคือ การที่รับประกันภัยต่อ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บริษัทประกันต้องดูให้ครบถ้วน เพื่อให้สามารถตอบสนองกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด

อย่างไรก็ตามธุรกิจประกันชีวิตยังคงต้องติดตามสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย เพื่อเตรียมความพร้อมในการปรับพอร์ตทั้งในส่วนของการลงทุน และ Product mix และทิศทางกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทประกันชีวิตที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์อย่างทันท่วงที

รูปแบบกรมธรรม์ที่คนส่วนใหญ่นิยมทำ?

1.ประกันชีวิต 

2.ประกันออมทรัพย์ 

3.ประกันชีวิตควบการลงทุน

เบี้ยประกันมาจากช่องทางใดมากสุด?

ทั้งนี้เบี้ยประกันที่มาจากตัวแทนถือได้ว่าเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือช่องทางนายหน้าธนาคาร และเริ่มจะเห็นภาพของนายหน้าทั่วไป ส่วนในแง่ของช่องทางดิจิทัลอยู่เพียง 1% เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นไซส์เล็ก 


ดังนั้นด้วยความมหัศจรรย์ของประกันสุขภาพ คือ การทำให้ทุกคนเข้าถึงการรักษาที่ดีได้ แล้วทำไมเราจะไม่ทำ เพราะอนาคตเราไม่รู้แน่ โรคทั้งหลายเราไม่รู้นอน หากภัยมาเมื่อไร แค่ยื่นบัตรประกันไปก็หายห่วง เพราะสุขภาพสำคัญประกันสุขภาพ-ประกันชีวิต จึงจำเป็นนั่นเอง..


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ