Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

ถอดแง่คิด มุมมองการใช้ชีวิต 16 ข้อจากซีรีส์ When Life Gives You Tangerines ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน

Date Time: 22 มี.ค. 2568 10:00 น.

Summary

  • ชีวิตก็เหมือนส้ม…บางวันหวานชื่น บางวันขมเปรี้ยว แต่ทุกช่วงรสชาติ ล้วนเติมเต็มให้ชีวิตสมบูรณ์ขึ้น ถอดแง่คิด มุมมองการใช้ชีวิต และการวางแผนทางการเงิน 16 ข้อ จากซีรีส์ When Life Gives You Tangerines ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน เมื่อ “ความรัก” และ “การเงิน” ต้องเดินไปด้วยกัน ซีรีส์เกาหลีสะท้อนแง่มุมของชีวิตคู่

“เมื่อฉันถูกรัก โดยลูกชายของครอบครัวที่ไม่ชอบขี้หน้า”
“เราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กบนเกาะเชจู”
“ครอบครัวพวกเรายากจนไม่ค่อยมีอะไรกิน แต่ลูกชายบ้านเขาชอบแอบเอาปลามาให้”
“ชอบมาช่วยขายของทั้งที่ไม่ใช่แผงตัวเอง”

นาทีนี้หากพูดถึงคำค้นหายอดนิยม คงจะมีแต่ “กวานชิก ใกล้ฉัน” อย่างแน่นอน เพราะด้วยกระแสที่โด่งดังของซีรีส์เกาหลีที่ทำให้หัวใจเบิกบาน และปวดร้าวเคล้าน้ำตาในเวลาเดียวกัน “When Life Gives You Tangerines (ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน)” ซีรีส์เกาหลีที่สะท้อนชีวิตคู่ของคนเราให้เป็นเหมือนดั่งรสของ “ส้ม” จะเปรี้ยว หรือหวาน ถ้าหากอยากรู้ก็ต้องลอง เพราะชีวิตก็เหมือนส้ม…บางวันหวานชื่น บางวันขมเปรี้ยว แต่ทุกช่วงรสชาติ ล้วนเติมเต็มให้ชีวิตสมบูรณ์ขึ้น...

**บทความนี้มีการสปอยเนื้อหา เพราะเราจะตับพังไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน**

นั่นจึงทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ที่แม้จะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ จนถึงวันที่ฝันสลาย มรสุมถาโถมเข้ามา แต่เมื่อมี “รัก” ที่คอยอยู่เคียงข้าง ความเหน็บหนาวนั้นก็เบาบางลง จนกลายเป็นความอบอุ่นในใจของครอบครัวได้ในที่สุด

ตำนานความรักบนเกาะเชจู ที่ทิชชู่ต้องเข้า

“When Life Gives You Tangerines (ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน)” ซีรีส์เกาหลีโรแมนติก-ดราม่า มีทั้งหมด 16 EP. ปัจจุบันถูกปล่อยออกมา 8 EP. ออนแอร์ทาง Netflix
ซึ่งเป็นการดำเนินเรื่องราวความรักและชีวิตของคนสองคนบนเกาะเชจู ผ่านสี่ฤดูกาล

โดย EP.1-4 เป็นฤดูใบไม้ผลิ อรุณแรกแห่งวัยเยาว์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของตัวละครเอกคือ เด็กผู้หญิงชื่อ “แอซุน” (รับบทโดย ไอยู) ที่เติบโตมาในสังคมชนบทบนเกาะเชจูด้วยค่านิยมแบบดั้งเดิม ผู้หญิงในยุคนั้นต้องเผชิญกับกรอบทางสังคมที่เข้มงวดและโอกาสในการเลือกเส้นทางชีวิตของตนเองแทบจะไม่มี แม้ว่าเธอใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักกวีก็ตาม แต่ด้วยฐานะทางครอบครัว พ่อเสียชีวิต แม่แต่งงานมีครอบครัวใหม่

แม่ของเธอหาเลี้ยงชีพด้วยการดำน้ำเก็บหอย วันแล้ววันเล่าทะเลพรากอากาศจากปอดแม่ พรากเรี่ยวแรงจากร่างและสุดท้ายก็พรากแม่ไปจากเธอ เธอถูกทิ้งไว้กับความเวิ้งว้างโดดเดี่ยว เหมือนเรือลำเล็กที่ถูกซัดออกไปอยู่กลางทะเล ไม่มีฝั่งให้กลับไม่มีมือใดให้ยึดเหนี่ยว แถมยังต้องแบกรับภาระเป็น “เสาหลัก” ในการหาเลี้ยงปากท้องให้กับผู้เป็นพ่อเลี้ยง และน้องต่างพ่ออีก 2 คน แม้ว่าแม่จะย้ำกับเธอแล้วก็ตามว่าให้ “ไปจากบ้านหลังนี้”

ซึ่งในโลกที่โหดร้ายนี้ กวานชิก (รับบทโดย พัคโบกอม) เป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ข้างๆ ผู้ชายที่มีรักแท้และรักเดียวอย่างไม่มีเงื่อนไข ถึงขั้นมีปัญหากับแม่ กับย่าตัวเอง เพียงเพราะเลือกที่จะรัก และเลือกที่จะสู้ไปพร้อมกับผู้เป็น “ภรรยา” นับเป็นการทลายกำแพงเรื่องเพศ เพียงเพราะว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัว และไม่ใช่ผู้หญิงต้องเสียสละเพียงฝ่ายเดียวอยู่ร่ำไป รวมทั้งปลดแอกการเป็นเดอะแบก และการแบ่งแยก “เจเนอเรชัน” ที่ลูกสามารถเลือกชีวิต และเส้นทางของตัวเองได้

นั่นจึงทำให้ “แอซุน” เลือกที่จะแต่งงานกับ “กวานชิก” ด้วยเพราะเหตุผลที่ว่า “รู้หรือเปล่า? ทำไมฉันถึงแต่งงานกับผู้ชายที่เห่ยที่สุดแห่งเกาะเชจู เพราะพี่น่ะเหมือนเหล็กกล้าเลยล่ะ ถึงเราไม่อิ่มท้องแต่ใจฉันอิ่มเอมทุกวันแน่ๆ”

แต่กระนั้นใช่ว่า “ความรัก” จะทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้น จากบ้านที่กดขี่สู่บ้านที่ไม่ต้อนรับ เหมือนดั่งสะใภ้ที่ไร้ค่า นั่นทำให้เธอย่อมหนีไม่พ้นจะชะตากรรมเดิม แต่ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวความรักของทั้งคู่ก็กลายเป็นมหากาพย์อันยาวนานชั่วชีวิตที่ ล้มลุกและสุขสม ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าความรักนั้นอยู่เหนือกาลเวลา และจงมีแรงยิ้มไว้ในวันที่ “ส้มไม่หวาน”

โดยซีรีส์จะเป็นเล่าเรื่องราวที่สลับไปมา ระหว่างพาร์ทปัจจุบัน และพาร์ทในอดีต รวมถึงการเติบโตไปพร้อมกับสมาชิกใหม่ที่ทำให้ครอบครัวขยับขยาย

เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินมาถึงตอนที่ ผู้ที่เป็นลูกคนโต ไม่เคยขาดสิ่งใดอื่นเลยทั้งความอบอุ่น ความรัก เวลาและการเอาใจใส่จากพ่อแม่ แต่ด้วยความเป็นลูกคนโตที่รับรู้สถานการณ์ทุกอย่างภายในบ้าน ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย ความยากลำบากของพ่อแม่ที่พยายามจะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เธอ ทำให้ปมนี้ช่องว่างนี้ในใจของเธอถูกเก็บเข้าไปในส่วนลึกของจิตใจเสมอมา รวมทั้งเธอกำลังประสบปัญหาทางด้านความรักเช่นเดียวกันกับผู้เป็นแม่

แม้เธอจะทำงานมีเงินมากพอที่จะซื้อของที่ตัวเองอยากได้แล้ว แต่สุดท้ายเงินนั้นก็พอซื้อได้แค่ของถูกๆ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากี่สิบคู่ ก็ยังเป็นเพียงรองเท้าธรรมดาๆ ทั่วไปอยู่ดี เหมือนเป็นการเติมเต็มในสิ่งที่ตัวเองขาดหาย 

จึงไม่แปลกที่ “พ่อแม่จะจมปลักอยู่กับความรู้สึกผิดต่อลูก ส่วนลูกก็จมปลักกับความน้อยใจของพ่อแม่”

เพราะไม่ว่าพ่อแม่จะพยายามทุ่มเทความรัก แรงกาย แรงใจ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ตัวเองและลูกๆ พร้อมกับซื้อสังคมให้ลูกมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับลูกมันก็ยังไม่พออยู่ดีเพราะบางอย่างก็ต้องใช้ “เงิน”

สะท้อนให้เห็นว่าการมีลูกเมื่อพร้อม ไม่ใช่แค่พร้อมในด้านทัศนคติ แต่การเงินก็ต้องพร้อมด้วย ปฏิเสธไม่ได้ว่าสุดท้ายมากกว่าคำว่า “ครอบครัว” “เงิน” ก็เป็นตัวแปรสำคัญในชีวิตของทุกคน รวมทั้งการสูญเสียลูกคนเล็กที่ทำให้ครอบครัวนี้รู้สึกเหมือนกับว่าโลกทั้งใบกำลังจะถล่มลงมา พายุลูกใหญ่กำลังพัดพาเข้ามาสู่พวกเขาอีกครั้งหนึ่ง 

ถอดแง่คิด มุมมองการใช้ชีวิต และการวางแผนทางการเงินผ่านซีรีส์

และด้วยความที่ซีรีส์ดำเนินมาจนถึง 8 EP. ทำให้เราได้เห็นมุมมองการใช้ชีวิต แง่คิดการปรับตัว เหตุการณ์ Black Swan ที่เราจะต้องรับมือให้ได้ รวมทั้งการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคลที่ถือเป็นสิ่งสำคัญ ผ่านซีรีส์ “When Life Gives You Tangerines ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน” โดย Thairath Money ได้สรุปเอาไว้ดังนี้

  1. อย่าประมาทกับการวางแผนการเงิน อย่ารอช้าที่จะเริ่มต้นวางแผนทำประกันชีวิต ติดตัวเอาไว้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้อย่างน้อยเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา เสาหลักต้องจากลาทุกคนไปแล้ว คนข้างหลังจะได้ไม่ลำบาก
  2. โลกนี้คงไม่มีอะไรที่จะได้มาง่ายๆ ทุกสิ่งจะเกิดขึ้นได้จากการที่เราคิดและลงมือทำ
  3. เตรียมพร้อมก่อนเจอปัญหาด้วย Scenario Analysis
  4. ความล้มเหลวเป็นบทเรียน ไม่ใช่มรดก ส่งต่อแรงบันดาลใจ ไม่ใช่ภาระ
  5. รู้จักกับประโยชน์ของการออมเงิน เปลี่ยนชีวิตให้ดีในระยะยาว
  6. หาได้มากแค่ไหนไม่สำคัญเท่าเก็บและลงทุนเป็น
  7. รวยไม่ใช่แค่มีเงินเยอะ แต่คือมีอิสรภาพทางการเงิน
  8. รักแท้คือการเป็นบ้านให้กัน ไม่ใช่แค่พักพิง แต่คืออยู่แล้วสบายใจ
  9. ไม่ต้องรอให้รวย หรือรอให้มีอิสระทางการเงิน ก็สามารถเริ่มต้นสร้างชีวิตที่มีคุณค่าได้
  10. ลมเปลี่ยนทิศไม่ได้ทำให้เราล้ม ถ้าเราเรียนรู้ที่จะปรับใบเรือ
  11. ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ แต่คือจุดเริ่มต้นของบทเรียนใหม่
  12. ความแข็งแกร่งไม่ได้มาจากการชนะเสมอไป แต่มาจากการลุกขึ้นใหม่ทุกครั้งที่ล้ม
  13. ทุกความสูญเสียมาพร้อมบทเรียน และทุกน้ำตามาพร้อมการเติบโต
  14. ความเจ็บปวดไม่ได้อยู่ตลอดไป แต่ความเข้มแข็งที่ได้จากมันจะอยู่กับเราตลอดชีวิต
  15. ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลูก คือทำให้พ่อแม่ภูมิใจ โดยไม่ต้องเอาชีวิตไปเปรียบเทียบกับใคร
  16. ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะเดินไปบนหนามของมัน

คุณพร้อมหรือยังที่จะเสียน้ำตาไปด้วยกัน….และรู้จักบทเรียนชีวิตจากซีรีส์ดัง

อ้างอิง NetflixTH , korseries 

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)