Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

ทำไมคนเราต้องอวดรวย? จิตวิทยาเบื้องหลังภาพลวงตาที่ทำให้เราใช้เงินเกินตัว

Date Time: 20 มี.ค. 2568 16:20 น.

Summary

  • ชีวิตหรูหราบนโซเชียลมีเดียอาจเป็นเพียงภาพลวงตา หลายคนใช้จ่ายเกินตัวหรือสร้างภาพลักษณ์เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากสังคม แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยหนี้สินและแรงกดดัน การไล่ตามความมั่งคั่งที่ฉาบฉวยอาจทำให้เราหลงลืมความสุขที่แท้จริง ลองถามตัวเองว่า…เรากำลังใช้ชีวิตเพื่อตัวเองจริง ๆ หรือเพียงเพื่อให้คนอื่นมองว่าเรามี?

ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นหน้าต่างเปิดสู่ชีวิตของคนมากมาย เรามักเห็นภาพของอินฟลูเอนเซอร์และเน็ตไอดอลที่ใช้ชีวิตหรูหรา เดินทางต่างประเทศ สะสมกระเป๋าแบรนด์เนม และรับประทานอาหารราคาแพง ภาพเหล่านี้กระตุ้นให้หลายคนเกิดความฝันอยากมีชีวิตที่สุขสบายแบบพวกเขา แต่คำถามสำคัญคือ ชีวิตเหล่านั้นเป็นของจริงแค่ไหน? หรือเป็นเพียงเปลือกนอกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อความโดดเด่นบนโลกออนไลน์

ทำไมคนเราต้อง “อวดรวย”?

มนุษย์มีแนวโน้มที่ต้องการได้รับการยอมรับจากสังคม บางคนเลือกใช้ "ความรวย" เป็นเครื่องมือในการสร้างสถานะทางสังคม เพราะในความคิดของหลาย ๆ คน ความมั่งคั่งหมายถึงความสำเร็จ การได้รับการชื่นชม และการเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้าง

นอกจากนี้ โซเชียลมีเดียยังมีส่วนสำคัญในการทำให้การอวดรวยกลายเป็นเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ภาพเครื่องประดับหรูหรา รถยนต์สุดแพง หรือกระเป๋าแบรนด์เนม เพราะสิ่งเหล่านี้ดึงดูดความสนใจและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ติดตาม จนบางครั้งนำไปสู่การสร้างภาพลักษณ์ที่เกินจริงหรือใช้เงินเกินตัวเพียงเพื่อรักษาภาพลักษณ์เหล่านั้นเอาไว้

ความจริงเบื้องหลังภาพความหรูหรา

ไม่ใช่ทุกคนที่แสดงความมั่งคั่งบนโลกออนไลน์จะมีชีวิตที่สุขสบายจริง หลายครั้งเราพบว่าคนที่อวดรวยมากเกินไป อาจไม่ได้มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงอย่างที่เห็น บางคนอาจใช้เงินเกินตัว ใช้สินเชื่อ หรือแม้แต่ยืมเงินเพื่อรักษาภาพลักษณ์หรูหราเหล่านั้น ซึ่งนำไปสู่ปัญหาหนี้สินและความกดดันทางการเงินในระยะยาว

มีหลายกรณีที่แสดงให้เห็นว่า ภาพชีวิตหรูหราที่ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียนั้น อาจไม่ได้สะท้อนถึงสถานการณ์ทางการเงินที่แท้จริง บางคนอาจมีภาระหนี้สินที่สูง หรือใช้จ่ายเกินกำลังเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของตนเอง นี่เป็นบทเรียนสำคัญว่า ไม่ใช่ทุกอย่างที่เราเห็นบนโซเชียลจะเป็นเรื่องจริงเสมอไป

นอกจากนี้ การอวดรวยอาจสร้างแรงกดดันทางสังคมให้กับผู้ติดตามที่อาจรู้สึกว่าต้องแข่งขันหรือเปรียบเทียบชีวิตของตนเองกับมาตรฐานที่ถูกสร้างขึ้นบนโลกออนไลน์ สิ่งนี้นำไปสู่พฤติกรรมการใช้จ่ายที่ไม่สมเหตุสมผล เช่น การซื้อของราคาแพงเพียงเพื่อให้เข้ากับกระแส หรือแม้แต่การกู้ยืมเงินเพื่อให้ดูเหมือนว่าตนเองก็มีชีวิตที่หรูหราไม่แพ้กัน

รู้เท่าทัน ไม่หลงกลไปกับภาพมายา

เมื่อเห็นใครโพสต์ชีวิตหรูหรา เราควรถามตัวเองว่า "นี่คือชีวิตจริงของเขาหรือไม่?" และ "เราจำเป็นต้องใช้ชีวิตแบบนั้นจริงหรือเปล่า?" การไล่ตามชีวิตหรูหราโดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริงทางการเงินของตัวเอง อาจนำไปสู่ปัญหาที่แก้ไขได้ยากในอนาคต

แทนที่จะมองหาแต่การสร้างภาพลักษณ์ ลองให้ความสำคัญกับการสร้างรากฐานทางการเงินที่มั่นคงและใช้จ่ายอย่างมีสติ เพราะสุดท้ายแล้ว ความสุขที่แท้จริงไม่ได้มาจากการอวดรวย แต่เกิดจากความมั่นคงและสบายใจในชีวิตของเราเอง

การอวดรวยคือ “กับดักทางจิตวิทยา”

ท้ายที่สุดแล้ว การอวดรวยไม่ใช่เพียงแค่พฤติกรรมการใช้จ่าย แต่ยังเป็นกลไกทางจิตวิทยาที่สะท้อนถึงความต้องการการยอมรับและการมีตัวตนในสังคม นักจิตวิทยาได้อธิบายว่าการแสดงความมั่งคั่งหรือ “อวดรวย” เกิดจากปัจจัยทางจิตวิทยาหลายด้าน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ในการได้รับการยอมรับทางสังคม และการสร้างอัตลักษณ์ของตนเองบนโลกออนไลน์

หนึ่งในนั้น คือ การทำให้เกิด FOMO (Fear of Missing Out) หรือ ความกลัวตกกระแส ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่ทำให้คนรู้สึกว่าต้อง “ตามให้ทัน” กับไลฟ์สไตล์ของคนอื่น นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนยอมใช้จ่ายเกินตัวเพื่อให้รู้สึกว่าไม่ได้พลาดประสบการณ์ที่คนอื่นมี

แต่ในระยะยาว ความรู้สึกนี้อาจนำไปสู่ปัญหาทางการเงินและภาวะเครียด การตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราต้องการมีชีวิตที่ดูดีต่อหน้าคนอื่น หรือมีชีวิตที่มั่นคงและไม่เป็นภาระทางการเงินในระยะยาว อาจช่วยให้เรามีมุมมองที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับการใช้เงิน และไม่ตกเป็นเหยื่อของภาพมายาบนโซเชียลมีเดีย

สิ่งสำคัญที่เราควรตระหนักคือ การมีสถานะทางสังคมไม่ได้หมายความว่าต้องมีทรัพย์สินมากมาย แต่คือความสุขที่เกิดจากความมั่นคงทางจิตใจและการใช้ชีวิตอย่างสมดุล

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney

ขออภัยในความไม่สะดวก ระบบกำลังตรวจสอบการใช้งาน กรุณาลองใหม่อีกครั้ง

Thairath Money

แบบสำรวจพฤติกรรมการลงทุนของคนรุ่นใหม่

รู้หรือไม่ว่า สามารถโยกย้ายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ไปเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ได้

การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)