ไม่ว่าจะเป็นโสด รักสันโดษ เป็นผู้หญิง ผู้ชาย หรือแม้แต่ LGBTQIA+ เชื่อว่าหลายคนก็มีวิธีการเก็บเงินและจัดสรรใช้เงินในรูปแบบของตัวเอง แต่เมื่อก้าวเข้ามาสู่ความสัมพันธ์ ที่ไม่ว่าจะเป็นแฟนกัน คบหากันแบบจริงจัง อาศัยอยู่ด้วยกัน ตลอดจนคู่รักที่แต่งงานกันแล้วก็ตาม การเก็บเงิน ใช้เงินย่อมมีรูปแบบแตกต่างไปจากเดิม
กับคำถามที่ว่า “คู่รักควรเก็บเงินแยกกันดี รวมกันเลย หรือผสมผสานทั้งสองแบบดีนะ?” และแน่นอนว่าคำตอบของแต่ละคู่ย่อมแตกต่างกันไป ซึ่งจากแบบสำรวจของ Bankrate เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พบว่า 62% ของคู่รักที่มีความสัมพันธ์แบบจริงจัง เลือกที่จะเก็บเงินแยกจากกัน
และคำตอบจากกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนกว่า 2,217 คน พบว่า คู่รักกว่า 38% เลือกใช้บัญชีร่วมกันทั้งหมด ในขณะที่ 34% ใช้ทั้งบัญชีร่วมและบัญชีแยก และ 27% เลือกเก็บเงินแยกกันทั้งหมด
โดยส่วนใหญ่จะเป็นคู่รักรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z และ Millennials มักนิยมแยกเงินมากกว่ารุ่นอื่นๆ โดยพบว่า สัดส่วนที่เยอะที่สุดคือ Gen Z ที่ 88% ที่เลือกเก็บเงินแยกเป็นของตัวเอง Gen Y ที่ 70% ในขณะที่ Gen X เก็บแยกที่ 59% และ Baby Boomers ที่ 52%
ซึ่งเหตุผลหลักก็เพราะคนรุ่นใหม่แต่งงานช้าลง และเคยชินกับการบริหารเงินของตัวเองตั้งแต่เริ่มทำงาน อีกทั้งโลกยุคดิจิทัลที่ทำให้การโอน จ่าย ช้อปปิ้งทำได้ง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เลือกเก็บเงินแยกกัน
ทั้งนี้ การเลือกแยกเก็บเงินกันไม่ใช่ปัญหา หากมีการตกลงกันให้ชัดตั้งแต่ต้น ทาง Bankrate ชี้ว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือการสื่อสารให้ชัดว่าทั้งสองคนจัดการเงินอย่างไร” เพราะสุดท้ายการจะใช้บัญชีร่วมหรือบัญชีแยก ขึ้นอยู่กับความสบายใจและเป้าหมายของแต่ละคู่
นอกจากนี้ นักวิจัยจาก Cornell University ยังพบอีกว่า ทัศนคติของคู่รักต่อเรื่องการเงิน มีผลต่อการสื่อสารโดยตรง หากมองว่า “ปัญหาแก้ไขได้” ก็จะเปิดใจพูดคุยกันได้มากกว่า แต่ถ้ามองว่า “ปัญหาแก้ไม่ได้” ก็จะเริ่มหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องเงิน ซึ่งอาจนำไปสู่ “การนอกใจทางการเงิน” (Financial Infidelity)
จากผลสำรวจของ Bankrate พบว่า 40% ของคู่รักที่อยู่ร่วมกับคู่ชีวิตเคยปกปิดหรือโกหกเรื่องการเงิน อย่างเช่น ใช้เงินเกินที่คู่จะรับได้ มีหนี้ลับ แอบเปิดบัตรเครดิต แอบเปิดบัญชีเงินฝาก หรือบัญชีใช้จ่ายส่วนตัวแบบไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์แนะนำว่า “คู่รักควรมีการนัดคุยเรื่องเงินเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เหมือนมีเดตการเงิน เพราะเป้าหมายการเงินระยะสั้นและระยะยาวควรถูกวางแผนร่วมกัน จะได้ไม่มีปัญหาในอนาคต”
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney
การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล