“คิวอาร์โค้ด” มาแรงทำอีดีซีพลาดเป้า

นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเปิดเผยว่า การติดตั้งเครื่องรับบัตรหรืออีดีซีของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นไปตามโครงการระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (เนชั่นแนล อี-เพย์เม้นท์) ที่กำหนดให้กระจายจุดชำระบัตร ตั้งเป้าหมายติดตั้งเครื่องอีดีซี 500,000 เครื่อง เชื่อว่าจะไม่สามารถติดตั้งได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการรายใหญ่และขนาดกลาง รวมทั้งธุรกิจที่มีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ เช่น ห้างสรรพสินค้าจะติดตั้งเครื่องอีดีซีเพิ่มขึ้นเฉพาะในส่วนของสาขาที่เปิดใหม่ ทำให้อัตราการเพิ่มขึ้นของการติดตั้งเครื่องอีดีซีใหม่ค่อนข้างนิ่ง

ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยมีทางเลือกใช้การชำระเงินแบบ QR Code ซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการติดตั้งเครื่องอีดีซี ทั้งนี้ จากตัวเลขของ ธปท. ณ เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ได้มีการติดตั้งเครื่องอีดีซีไปแล้ว 180,000 เครื่อง และตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 200,000 เครื่องจากเป้าหมายของรัฐบาลที่กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ติดตั้งเครื่องอีดีซี 500,000 เครื่อง

“QR Code มาตรฐานธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเริ่มใช้ปลายเดือน ส.ค.นี้ และในช่วงแรกจะเป็นการชำระเงินผ่านพร้อมเพย์และบัตรเดบิต ส่วนบัตรเครดิตจะสามารถใช้ชำระเงินผ่านระบบ QR Code มาตรฐานได้ต้นปีหน้า”

นายฐากรกล่าวอีกว่า พฤติกรรมการใช้บริการของลูกค้าเปลี่ยนไป ลูกค้าของธนาคารและบริษัทในเครือ ที่มีอายุ 35 ปีลงมา หันมาใช้บริการแอพพลิเคชั่นโมบายแบงก์กิ้ง 60% สิ้นปีคาดว่ายอดการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 350 ล้านรายการ และปีหน้าจะเติบโตอีก 90% ทำให้ธุรกิจแบงก์แข่งขันรุนแรงมากขึ้น มีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น เพื่อดึงให้ลูกค้ามาใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าที่ใช้บริการตามช่องทางต่างๆ เอทีเอ็มยังมีสัดส่วนการใช้บริการสูงสุด สาขามีอันดับรองลงมา ส่วนดิจิทัลแบงก์กิ้งมีการเติบโต 100%.