เคยได้ยินไหม? โอกาสจะหายไป หากเราไม่มีเงินเก็บ! เพราะเราอาจพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิต เช่น การลงทุน การซื้อทรัพย์สิน หรือการจับจ่ายใช้สอยในยามฉุกเฉิน
ร้ายสุดอาจเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ป่วย ถูกปลดออกจากงาน แบบไม่มี “เงินออม” ชีวิตไร้ซึ่งความมั่นคง
นี่คือตัวอย่างบางส่วนที่สะท้อนให้เห็นว่า การเงิน ชีวิต และความสุข - ความอิสระ เชื่อมโยงกันอย่างไร? ซึ่งการมีวินัยทางการเงินตั้งแต่ตอนอายุยังน้อย และเริ่มต้นเก็บเงินเล็กๆ น้อยๆ จนเป็นนิสัย จะช่วยให้เรามีชีวิตที่มีความสุขและมั่นคงในอนาคตได้
อย่างไรเสีย กับดักสำคัญที่ทำให้คนรุ่นใหม่วางแผนการเงินไม่สำเร็จ เช่น เมื่อได้รับเงินเดือนขึ้น ก็รีบไปซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ รถยนต์คันหรู หรือไปเที่ยวต่างประเทศทันที โดยไม่ได้วางแผนการเงินล่วงหน้า ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ถูกเรียกว่า Lifestyle Inflation หรือการขยายตัวของไลฟ์สไตล์ตามรายได้
หมายถึง การที่เราปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นตามที่รายได้เพิ่มขึ้น โดยไม่คำนึงถึงการออมเงิน หรือการลงทุน ซึ่งมักจะนำไปสู่การใช้จ่ายเกินตัว และเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว
โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ได้รับอิทธิพลจากสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งมักจะนำเสนอไลฟ์สไตล์ที่หรูหรา ฟุ่มเฟือย ทำให้คนเราอยากได้อยากมีตาม ซึ่งหากไม่ระวังก็อาจตกเป็นเหยื่อของ Lifestyle Inflation ได้
- ตั้งงบประมาณ: กำหนดงบประมาณรายเดือน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- ออมเงินก่อนใช้: พยายามออมเงินอย่างน้อย 10-20% ของรายได้
- หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น: โฟกัสไปที่เป้าหมายของตัวเอง
- เรียนรู้การลงทุน: นำเงินที่ออมมาลงทุนเพื่อให้เงินทำงานให้เรา
- ช้อปปิ้งอย่างมีสติ: ก่อนซื้ออะไร ควรพิจารณาให้ดีว่าจำเป็นหรือไม่
ข้อมูลเผยแพร่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แนะ “คนรุ่นใหม่” หรือแม้แต่คนทั่วไป ว่าถ้าอยากมีเงินเก็บ ต้องระวังกับ 3 กับดักทางการเงิน ดังนี้
1. การใช้บัตรเครดิตที่มาพร้อมกับดอกเบี้ยสูง 16% ต่อปี / ค่าธรรมเนียมการกดเงินสด 3% + VAT 7% ซึ่งหากจ่ายไม่ไหวอาจกระทบต่อประวัติเครดิตบูโร
พฤติกรรมที่น่าเป็นห่วง คือ การใช้บัตรเครดิตซื้อของเกินความจำเป็น, จ่ายขั้นต่ำแทนที่จะจ่ายเต็มจำนวน และใช้บัตรเครดิตกดเงินสด โดยวิธีป้องกันนั้น สามารถทำได้ด้วยการจ่ายยอดบัตรเครดิตเต็มทุกเดือน และตั้งงบประมาณใช้จ่ายไม่เกิน 1 ใน 3 ของรายได้
2. ซื้อของด้วยอารมณ์ เช่น ช้อปปิ้งเพื่อคลายเครียด, ซื้อของตามเทรนด์ และซื้อของลดราคาทั้งที่ไม่จำเป็นหรืออยากได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ จะทำให้เงินออมเราลดลง และมีของที่ไม่จำเป็นสะสม จนท้ายที่สุด อาจเกิดความเครียดจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น วิธีควบคุมที่ได้ผลนั้น ธปท. แนะว่า ลองให้เวลาตัวเองสัก 1-2 วัน ก่อนตัดสินใจซื้อ และตั้งงบประมาณสำหรับการช้อปปิ้งในแต่ละเดือน
3. การผ่อนชำระยาวนาน โดยการผ่อนสินค้าดอกเบี้ย 0% หลายๆ ชิ้น เช่น การผ่อนรถยนต์ดาวน์ต่ำ ระยะเวลา 72-84 เดือน เพราะสิ่งที่ตามมาคือ การต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมที่สูงมาก, ภาระผูกพันระยะยาว กระทบการวางแผนทางการเงิน ขณะมูลค่าสินทรัพย์ลดลง แต่เรายังผ่อนไม่หมด วิธีแก้ไขเรื่องนี้นั้น ต้องวางแผนเก็บเงินก่อนซื้อ และเลือกระยะเวลาผ่อนที่สั้นที่สุดเท่าที่จะจ่ายไหว รวมไปถึงอย่าลืมคำนวณภาระดอกเบี้ยรวมก่อนตัดสินใจซื้อด้วย
ที่มา: ธปท.
อ่านข่าวหุ้น ข่าวทองคำ และ ข่าวการลงทุน และ การเงิน กับ Thairath Money ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney