นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) หรือ “เคทีซี” แถลงถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 68 ว่า ตั้งเป้าหมายขยายพอร์ตสินเชื่อรวมว่าจะเติบโตได้ 4-5% และคุมอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL Ratio) อยู่ในระดับไม่เกิน 2% นอกจากนี้ยังมีแผนระดมเงินกู้ยืมระยะยาวประมาณวงเงิน 15,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ และลงทุนด้านเทคโนโลยี เพื่อยกระดับองค์กรสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบและยั่งยืน รวมถึงรองรับหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะยาวที่จะครบกำหนดราว 13,000 ล้านบาท
“เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยปี 68 จะขยายตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ประชาชนและสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ถือเป็นสัญญาณบวกกับธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภค จากที่ปีนี้เศรษฐกิจโตช้ากว่าที่คาดและปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง”
สู่องค์กรดิจิทัลอย่างยั่งยืน
ในปี 68 จะเดินหน้าลงทุนด้านไอทีต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้เคทีซีก้าวสู่องค์กรดิจิทัลอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ “Building a Sustainable Future Through Digital Trans formation” บน 4 แนวทางหลัก ดังนี้ 1. Reach Better ใช้ช่องทางดิจิทัลขยายฐานสมาชิกกลุ่มใหม่ ที่นิยมทำรายการด้วยตนเองตั้งแต่ต้นจนจบ โดยพัฒนา E-Application ที่ง่ายไร้รอยต่อ และปลอดภัย รู้ผลการสมัครได้รวดเร็ว พร้อมพัฒนาและทดสอบเครื่องมือในการประเมินคุณภาพสินเชื่อ (Credit Scoring Model)ใหม่ๆ เพื่อแสวงหาโอกาสการขยายฐานสมาชิกที่อยู่ในระดับความเสี่ยงที่รับได้
2.Grow Healthier การบริหารฐานข้อมูลสมาชิกอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมพัฒนาบริการใหม่ๆบนแอป KTC Mobile ที่ทำให้สมาชิกสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆของเคทีซีได้สะดวกรวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิก และสร้างความมั่นใจในการใช้จ่าย
3.Bond Tighter เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของบริการ รวมถึงการสื่อสารบนช่องทางออนไลน์ ทั้งผ่านแอป “KTC Mobile” Line Connect, Facebook และเว็บไซต์ www.ktc.co.th เพื่อให้สมาชิกใช้งานง่ายสะดวกและมั่นใจมากขึ้น รวมถึงเครื่องมือที่ช่วยให้ทีมงานคอนแทกต์เซ็นเตอร์ (Contact Center) สามารถให้บริการตอบคำถามได้รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ
4.Work Smarter เตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือ กระบวนการและการพัฒนาทักษะ (Upskill) ด้านไอทีให้บุคลากรเคทีซีทั้งองค์กร ส่งเสริมการคิดริเริ่มและปรับปรุงกระบวนการทำงาน โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงาน ลดค่าใช้จ่าย และพัฒนาทักษะของพนักงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ตั้งเป้าใช้จ่ายผ่านบัตร 3.2 แสนล้านบาท
ขณะที่นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต KTC กล่าวว่า ปี 68 ธุรกิจบัตรเครดิตตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโต 10-12% หรือมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรไม่ต่ำกว่า 320,000 ล้านบาท โดยมีแผนเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ 250,000 บัตร เน้นกลุ่มผู้มีรายได้ 50,000 บาทขึ้นไป รวมถึง
กลุ่มคนเริ่มทำงาน (First Jobber) โดยสร้างความแตกต่างในด้านการทำกิจกรรมทางการตลาดและส่งเสริมการขายโดยใช้จุดแข็งด้านคะแนนสะสม KTC FOREVER ในการเพิ่มมูลค่าให้สมาชิก โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกหมวดสำคัญ เช่น หมวดอาหาร ช็อปปิ้ง เติมน้ำมันและท่องเที่ยว เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมาชิกทุกกลุ่ม
“ธุรกิจบัตรเครดิตปีนี้เจอความท้าทาย จากภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อหดตัว รวมถึงผลจากมาตรการของแบงก์ชาติ ซึ่งช่วงสุดท้ายของปีจะมีการใช้จ่าย การชำระค่าเบี้ยประกัน รวมถึงกองทุนลดหย่อนภาษีที่ชำระค่าซื้อหน่วยลงทุนผ่านบัตรเครดิตได้ แม้ยอดใช้จ่ายจะต่ำกว่าเป้า แต่เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมแล้ว เคทีซียังเติบโตได้ดีกว่า”
มุ่งขยายพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ
นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อบุคคล KTC กล่าวว่า ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ตั้งเป้าการเติบโตปี 68 ที่ 3% เน้นขยายฐานสมาชิกใหม่ ผ่านพันธมิตรธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อ ผ่านช่องทางสมัครสินเชื่อออนไลน์ E-Application ที่ลูกค้าสามารถทำรายการได้ด้วยตนเอง รู้ผลอนุมัติพร้อมรับเงินโอนเข้าบัญชีภายใน 30 นาที พร้อมสร้างประสบการณ์การใช้งานให้กับสมาชิกผ่านฟังก์ชัน “รูด โอน กด ผ่อน” ครบจบในบัตรเดียว และสานต่อโครงการ “เคลียร์หนี้” เพื่อเสริมวินัยทางการเงินแก่สมาชิก
นางสาวเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อรถยนต์ KTC กล่าวว่า สินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” คาดว่าปี 68 พอร์ตสินเชื่อจะเติบโตขึ้นแตะระดับ 3,000 ล้านบาท จากปีนี้อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท โดยเน้นขยายพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ ผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย ตัวแทน จำหน่ายและพันธมิตรธุรกิจ และเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำและเจ้าของกิจการขนาดเล็ก ที่เป็นเจ้าของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ที่กำลังมองหาสินเชื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ง่ายและปลอดภัย พร้อมรับวงเงินใหญ่สูงสุด 100% ของราคาประเมิน อนุมัติไวภายใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน
ด้านนางรจนา อุษยาพร ผู้บริหารสูงสุดสายงานการเงิน KTC กล่าวว่า แผนการระดมเงินกู้ยืมระยะยาวในปี 68 จะนำเงินมาชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดเป็นหลัก และคาดว่าจะทยอยออกหุ้นกู้ตามจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม ส่วนเงินทุนที่เหลือจะใช้ลงทุนด้านไอที 700-800 ล้านบาท
“การออกหุ้นกู้ในปี 68 จะทำให้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 0.10-0.20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.52% แม้ดอกเบี้ยนโยบายจะลดลง และคาดว่าปีหน้าจะลงอีก 1 ครั้ง แต่หุ้นกู้เคทีซีที่จะครบกำหนด จะออกมาในช่วงที่ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 2.25% จึงทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับกรณีที่เกิดปัญหาหุ้นกู้ในระบบ ที่มีการเลื่อนชำระแต่อย่างใด โดยล่าสุดเคทีซีได้เสนอขายหุ้นกู้ เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา วงเงิน 450 ล้านบาทมียอดจองซื้อเข้ามากว่า 700 ล้านบาท เกินวงเงินที่ต้องการออก” นางรจนากล่าว.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่