การใช้ “บัตรเครดิต” แทน “เงินสด” หากเลือกใช้อย่างถูกวิธี เราจะได้ประโยชน์ที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชันแบ่งจ่าย 0% หรือสิทธิประโยชน์ส่วนลดต่างๆ ที่ติดมากับบัตรเครดิต
ทั้งนี้บัตรเครดิตหรือบัตรสินเชื่อต่างๆ มักมีรูปแบบการชำระยอดค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบันการเงินจะกำหนด แต่ 2 รูปแบบที่เรามักเห็นกันบ่อยๆ คือ การชำระแบบเต็มจำนวน และการชำระแบบขั้นต่ำ ซึ่งการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงจ่ายขั้นต่ำเท่าที่เราจ่ายได้นะ แต่เป็นขั้นต่ำที่ทางสถาบันการเงินผู้ออกบัตรกำหนดเอาไว้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้เต็มจำนวน เพื่อรักษาสถานะทางการเงินให้เป็น “ปกติ”
แต่กระนั้นคนส่วนใหญ่มักจะเลือกที่จะ “ผ่อนขั้นต่ำ” เพื่อช่วยแบ่งเบายอดเงินก้อนใหญ่ที่ต้องชำระเมื่อรอบบิลบัตรเครดิตรายเดือนมาถึง หากเดือนนั้นมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเยอะ อาทิ ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ จองตั๋วคอนเสิร์ต เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลให้หลายคนลังเล
ดังนั้นแม้ยอดเงินขั้นต่ำจะทำให้ดูเหมือนจ่ายได้น้อยลง แต่การจ่ายขั้นต่ำก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเสมอไป เพราะเมื่อไหร่ที่จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตต่อไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิด “ดอกเบี้ยสะสม” คือ ดอกเบี้ยจากยอดที่ใช้ไป และดอกเบี้ยจากยอดที่ยังค้างอยู่จะสะสมเพิ่มพูน
ในที่สุดก็จะเกินความสามารถในการชำระหนี้ ก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น เสียประวัติ ติดเครดิตบูโร ติดแบล็กลิสต์ อาจส่งผลให้ กู้สินเชื่ออื่นๆ ไม่ผ่านอีกด้วย ส่วนกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือ เสี่ยงถูกฟ้องร้อง และยึดทรัพย์
รวมทั้งหลังจากงวดเดือนมกราคม ปี 2567 นี้ แต่ละธนาคารจะเปลี่ยนเงื่อนไข การชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิต เป็น 8% จากใบแจ้งยอดค่าใช้จ่าย ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากเดิม ที่อยู่ 5% ก่อนจะกลับไปสู่เกณฑ์ปกติที่ 10% ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป นั่นจึงทำให้ผู้ใช้บัตรเครดิตต้องรับมือการจ่ายค่างวดที่เพิ่มขึ้น และท้ายที่สุดแล้วจะทำให้ “การจ่ายบัตรขั้นต่ำ” ปูทางไปสู่จุดเริ่มต้นของการเป็น “หนี้”
ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านการเงิน และธนาคาร กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney