นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐและความเสี่ยงทางการคลัง ณ วันสิ้นปีงบประมาณ 2564 (30 ก.ย.2564) โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นจริง ณ 30 ก.ย.2564 ยังคงอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนด โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่ 58.15% ไม่เกินกรอบที่กำหนด 70%
สำหรับสถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นปีงบประมาณ 2564 มีสถานะหนี้คงค้าง 9.34 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1.49 ล้านล้านบาท สาเหตุที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ และการกู้เงินภายใต้กฎหมายพิเศษ 2 ฉบับ คือ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 พ.ศ.2563 และ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเติม พ.ศ.2564
สำหรับสัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ 32.27% ไม่เกินกรอบ 35% สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะรวม 1.80% ไม่เกินกรอบ 10% สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ 0.06% จากกรอบ 5% ความเสี่ยงทางการคลังยังอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะเช่นกัน โดยหนี้ส่วนใหญ่ 84.11% เป็นหนี้ที่เป็นภาระงบประมาณโดยตรง.