โครงการบ้านล้านหลัง เฟส 2 ของ ธอส.ยอดจองสิทธิ์วันที่ 4 ทะลุ 40,599 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 48,718.80 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. สานต่อโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ หรือ โครงการบ้านล้านหลัง เฟส 2 ภายใต้กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท โดยเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 64 ผ่าน Mobile Application : GHB ALL
ล่าสุด ยอดลงทะเบียนจองสิทธิ์สินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง ณ วันที่ 14 ก.ย. 64 เวลา 17.00 น. มีประชาชนเข้ามาลงทะเบียนทั้งสิ้นจำนวน 40,599 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 48,718.80 ล้านบาท
โดยมีวัตถุประสงค์การกู้ : ช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน ผู้ที่เริ่มต้นทำงานเพื่อสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น
วงเงินให้กู้ : ที่อยู่อาศัยในระดับราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท ให้กู้เพื่อซื้อบ้าน หรือห้องชุด ทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมซื้อบ้านหรือห้องชุด
อัตราดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรกเท่ากับ 1.99% ต่อปี
ปีที่ 5-7 เท่ากับ MRR -2% ต่อปี
ปีที่ 8 ถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป เท่ากับ MRR -0.75% ต่อปี, กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR -1% ต่อปี, กรณีกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR, ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารอยู่ที่ 6.150% ต่อปี
การะผ่อนชำระ : ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี เงินงวดคงที่ 84 งวดแรก หรือ 7 ปี กรณีกู้ 1,200,000 บาท ผ่อนชำระงวดละ 5,000 บาท ในช่วง 84 งวดแรก
ฟรีค่าธรรมเนียม : 1. ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) 2. ค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900-2,300 บาท) 3. ค่าจดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรม (1,000 บาท ต่อราย) และ 4. ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง)
วิธีการลงทะเบียน : ดาวน์โหลดแอปฯ GHB ALL และกดลงทะเบียนเพื่อรับรหัสเข้าร่วมโครงการ เมื่อทำตามขั้นตอนครบถ้วนแล้วลูกค้าจะได้รับรหัส 9 ตัวทาง GHB Buddy บน Application Line (ตัวอักษร 3 ตัว และตัวเลข 6 ตัว) เพื่อนำมาแสดงในการยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 ก.ย. 64 เป็นต้นไป และทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 66 หรือก่อนเต็มกรอบวงเงินของโครงการ