น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายโครงการกระตุ้นกำลังซื้อคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ การเพิ่มกำลังซื้อกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ในวันแรกเมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 พบว่า มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวม 7.8 ล้านราย มียอดใช้จ่ายรวม 1,646 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคนละครึ่ง 3.5 ล้านราย ใช้จ่ายรวม 791 ล้านบาท โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิ 3,428 ราย มียอดการใช้จ่ายรวม 9.1 ล้านบาท โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิ 4.2 ล้านราย มียอดการใช้จ่าย 826.3 ล้านบาท และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้สูงวัย ผู้พิการ ไม่มีสมาร์ทโฟน มีผู้ใช้สิทธิกว่า 1 แสนราย ยอดการใช้จ่ายรวม 19.6 ล้านบาท
ส่วนกรณีสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสมาคมภัตตาคารไทย เสนอขอให้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ผ่านผู้ประกอบการแพลตฟอร์มดีลิเวอรีได้นั้น มีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการได้ ซึ่งกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างหารือรายละเอียดและเงื่อนไข รวมถึงขั้นตอนการเชื่อมโยงระบบข้อมูลด้วยกัน คาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารกรุงไทย ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเป๋าตัง ขอชี้แจงว่า จากการเริ่มใช้โครงการคนละครึ่งเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนเข้าไปตรวจเช็กวงเงินสิทธิในแอปพลิเคชันป๋าตังพร้อมกันจำนวนมาก ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ทำให้ระบบหน่วงไป 10 นาที ส่วนวันที่ 2 ก.ค. มีผู้เข้าใช้บริการพร้อมกันจำนวนมากเช่นกัน ทำให้ระบบหน่วงไป 5 นาที แต่หลังจากนั้นก็สามารถเข้าใช้งานได้ปกติ ดังนั้นแอปเป๋าตังไม่ได้ล่มแต่อย่างใด.