นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.64 ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด กรณีการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ได้แก่ คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งจะสอบวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่ อคส. 3 รายที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา จัดซื้อโดยมิชอบและมีความผิดวินัยร้ายแรง โดยมีโทษสูงสุดคือให้ออก หรือไล่ออก คณะกรรมการฯชุดนี้ประกอบด้วยกรรมการ 4 คนจากกระทรวงพาณิชย์ มีกรอบระยะเวลาพิจารณา 30 วัน ส่วนอีกชุดคือ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ประกอบด้วยตัวแทนจากอัยการ กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ รวม 3 คน มีกรอบเวลาพิจารณา 60 วัน ซึ่งจะสอบความรับผิดทางละเมิด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ อคส.ทั้ง 3 ราย ชดใช้ความเสียหายให้กับ อคส.จากการนำเงินของ อคส. 2,000 ล้านบาท ไปจ่ายเป็นค่ามัดจำซื้อถุงมือยางจากบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำกัด ผู้ผลิตถุงมือยางให้กับ อคส.รวมถึงดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จะต้องชดใช้ให้กับ อคส.ด้วย
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า อคส.ได้ส่งสำนวนการสอบสวนข้อเท็จจริงการทุจริตการจัดซื้อถุงมือยางตามที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มี พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ อคส. เป็นประธาน ได้สืบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อใช้ประกอบการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ก่อนที่จะชี้มูลความผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คาดว่า ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดได้ในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ยังได้ส่งสำนวนไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เพื่อสอบเส้นทางการเงินของเงิน 2,000 ล้านบาทด้วย ซึ่งในระหว่างการสอบสวน หากทั้งป.ป.ช. และ ป.ป.ง.ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม อคส.ก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อคส.มั่นใจว่า ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิด ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อถุงมือยางครั้งนี้ได้ทั้งหมด ทั้งเจ้าหน้าที่ของ อคส. 3 ราย ที่ถูกสอบวินัยร้ายแรงคือ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส. และเจ้าหน้าที่บริหาร ระดับ 8 อีก 2 ราย คือ นายเกียรติขจร แซ่ไต่ และนายมูรธาธร คำบุศย์ รวมถึงภาคเอกชนคู่สัญญากับ อคส. และหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงในคณะกรรมการ (บอร์ด) อคส.ที่ผลสอบข้อเท็จจริงของ อคส.ชุดของ พ.ต.อ.สุรพงศ์ ชี้ชัดว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจัดซื้อครั้งนี้.