นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า สำนักงบประมาณอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดคำของบประมาณประจำปี 2565 หลังจากทุกหน่วยงานได้เสนอคำขอเข้ามา ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา มีวงเงินรวมกว่า 5.4 ล้านล้านบาท มากกว่ากรอบวงเงินงบประมาณที่ตั้งไว้ 3.1 ล้านล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาและตัดวงเงินให้เหลืออยู่ในกรอบ 3.1 ล้านล้านบาท เพื่อเสนอให้ที่ประชุม ครม.ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ เห็นชอบต่อไป
“งบประมาณที่เสนอขอเข้ามาก็เป็นไปเหมือนทุกปีที่จะมีวงเงินค่อนข้างสูงกว่ากรอบที่ครม.ได้อนุมัติเอาไว้ เกณฑ์การพิจารณาจะยึดว่าต้องเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 พ.ศ.2564-65 ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายไว้แล้ว ให้ทุกหน่วยงานทบทวนรายการที่สามารถชะลอไว้ได้ หรือโครงการใดสามารถใช้แหล่งเงินอื่นๆ ก็ให้พิจารณา ทั้งการใช้เงินกู้ การร่วมกับเอกชน หรือพีพีพี หรือกองทุนต่างๆ เช่นเดียวกับเงินนอกงบประมาณที่มาจากเงินสะสมก็ขอให้ช่วยใช้แหล่งเงินนั้นก่อน”
นายเดชาภิวัฒน์ กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณครั้งนี้มีความสำคัญ เพราะต้องปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำลง 150,000 ล้านบาท เพราะกรอบวงเงินงบประมาณปีนี้ลดลงจากปีก่อนถึง 180,000 ล้านบาท โดยต้องไปดูเรื่องของค่าใช้จ่ายของทุกหน่วยงานว่าจะปรับลดลงได้มากเท่าใด เช่น การขอเพิ่มอัตรา หรือเพิ่มเบี้ยประเภทต่างๆ อาจต้องชะลอออกไป แต่ยืนยันว่าสวัสดิการที่ประชาชนเคยได้รับทั้งเบี้ยยังชีพคนชรา ผู้พิการ เด็กแรกเกิด หรือเบี้ยที่ต้องจ่ายประจำ ยังคงให้เท่าเดิมอยู่ และการดูแลผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ได้เตรียมงบกลางไว้รองรับแล้ว.