ข่าวดีผู้มีรายได้น้อย Q Exchange หนุนรัฐปล่อยสินเชื่อรายย่อยช่วย ปชช.

ข่าวดีสำหรับผู้มีรายได้น้อย เมื่อ "Q Exchange"สนองโครงการรัฐ Nano Finance แก้หนี้นอกระบบ ปล่อยกู้สินเชื่อรายย่อย รายละ 1 แสนบาท ช่วยปากท้องประชาชน มีพลังสู้ชีวิต เริ่มให้สิทธิทันที ต้นเดือนกรกฎาคมนี้

ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบาย แก้ไขหนี้นอกระบบ และช่วยเหลือการลงทุนสำหรับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้โครงการสินเชื่อรายย่อย Nano Finance โดยให้ภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการปล่อยกู้สินเชื่อรายย่อยภายใต้เงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดให้ปล่อยกู้ได้รายละไม่เกิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 36 ต่อปี โดยผู้กู้สามารถชำระหนี้ลดต้นลดดอก ระยะเวลาผ่อนตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป

เพื่อเป็นการสนองตอบนโยบายดังกล่าวของรัฐ "Q Exchange co.,Ltd" จึงได้เข้าร่วมโครงการสินเชื่อรายย่อย Nano Finance และได้จัดแถลงข่าว เข้าร่วมโครงการ พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นสาขาแรกขึ้นในประเทศไทย ก่อนจะขยายให้ครบ 5 สาขาในปีนี้ อีกทั้งยังมีแผนเปิดตัวในลาว เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา ต่อไป

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.62 ณ ชั้น 2 อาคาร Home place ถ.สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ ซ.13) เขตวัฒนา กรุงเทพฯ นายชำนาญ อยู่เทศะ กรรมการผู้จัดการ Q Exchange co.,Ltd พร้อมด้วย มร.จุน ควัน ยู (Mr.Jun Hwan Gyu) ซีอีโอ "Q Exchange Nano Finance ประเทศไทย" สาขาแรก และคณะบริหาร ร่วมพิธีเปิดที่ทำการ "Q Exchange co.,Ltd" สาขาแรกในประเทศไทย โดยมีแขก และสื่อมวลชนมาร่วมงาน

นายชำนาญ อยู่เทศะ กล่าวว่า "Q Exchange" เข้าร่วมโครงการ Nano Exchange เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และเป็นการช่วยประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงเงินทุนสำหรับทำการค้าและลงทุน เนื่องสภาพเศรษฐกิจช่วงนี้ชลอตัว แหล่งเงินทุน หรือธนาคารต่าง ๆ ไม่ค่อยจะปล่อยกู้ การที่"Q Exchange" เข้าร่วมโครงการสินเชื่อรายย่อยกับรัฐบาลนั้นก็ถือเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้มารายได้น้อยทางหนึ่ง ซึ่งรัฐกำหนดให้ปล่อยกู้ได้รายละไม่เกิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 36 ต่อปี ผ่อนชำระนาน 18 เดือน โดยกลุ่มเป้าหมายได้แก่เจ้าของกิจการ เจ้าของร้านค้า ร้านอาหาร ที่มีความน่าเชื่อถือ มีร้านค้าเป็นหลักแหล่ง เป็นของตนเอง

อันนี้จะได้รับการพิจารณาให้สินเชื่อเพื่อนำไปใช้ลงทุนหรือขยายกิจการ นอกจากนั้น เรายังจะนำระบบสวัสดิการเงินกู้เข้ามาใช้ ด้วยการเข้าไปตามบริษัทต่าง ๆ โดยเราเป็นผู้สนับสนุนเงินทุน เหมือนอย่างธนาคารอาคารสงเคราะห์เขาทำ โดยมีวงเงินทุน 150 ล้านบาท คือทุนระยะแรกที่จะปล่อยกู้นี้เพื่อทดลองระบบ ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาเงินทุนเพราะเม็ดเงินนั้นมาจากเกาหลีใต้ สำหรับปีนี้ เราตั้งเป้าจะเปิดให้ได้ครบ 5 สาขา โดยสาขาแรกเราเริ่มจากใจกลางกรุงเทพฯ ก่อน จากนั้นจะขยายไปตามชาญเมือง อาทิ ย่านรังสิต นวนคร หรือเขตโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก่อนจะขายไปตามต่างจังหวัดต่อไป

มร.จุน ควัน ยู (Mr.Jun Hwan Gyu)ซีอีโอ Q Exchange Nano Finance ประเทศไทย กล่าวว่า "Q Exchange" มีอยู่ 200 สาขาในประเทศเกาหลีใต้ ทางบริษัทเรามีแผนจะขยายสาขาออกไปในทวีปเอเชีย โดยในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น เป็นเป้าหายหนึ่งของเรา แลเรามองว่าประเทศไทยคือศูนย์กลางของภูมิภาคนี้จึงเลือกเปิดที่กรุงเทพฯ เป็นสาขาแรก ก่อนจะขายไปยังประเทศลาว เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมาร์ ต่อไป.