ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 7 ส.ค.58 ปิดที่ 1,428.79 ลดลง 1.79 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 24,672.75 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,174.34 ล้านบาท
หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด นำโดย ADVANC ปิด 241 บาท บวก 1 บาท, AJD ปิด 1.36 บาท บวก 0.08 บาท. PTT ปิด 315 บาท ลบ 1 บาท, SCB ปิด 148 ลบ 1.50 บาท และ ASEFA ปิด 5.65 บาท บวก 0.25 บาท
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ชี้นักลงทุนโยกไปเล่นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ในตลาด mai รวมทั้งมีแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2 ที่มีแนวโน้มดี
มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบโดยนักลงทุนส่วนใหญ่รอตัวเลขผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ยังมีปัจจัยลบคือราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวลงต่อเนื่องกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน
ขณะที่ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค.58 ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งดีบีเอสฯคาดว่าจะปรับขึ้น ธ.ค.58 หรืออาจจะเร็วกว่านั้น หากตัวเลขเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างชัดเจน
กลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้นแนะซื้อขายในกรอบแนวรับแนวต้าน หรือเลือกลงทุนให้หุ้น Defensive ด้านเทคนิคแนวรับ 1,420 จุด
หากหลุดแนวรับนี้มีโอกาสลงไปแตะ 1,410-1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,440-1,450 จุด
บล.เอเชียพลัส เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ มูลค่าการซื้อขายเบาบาง หลังตอบรับปัจจัยลบต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจไทยชะลอตัว ขณะที่ปีนี้ต่างชาติเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง จนถือหุ้นไทยค่อนข้างน้อยแล้ว หากค่าเงินบาทอ่อนค่า 36 บาท/ ดอลลาร์สหรัฐฯ อาจได้เห็นแรงซื้อกลับ
มองตลาดสัปดาห์หน้า คาดหุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบ แม้ตอบรับปัจจัยลบไปแล้ว แต่ยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามากระตุ้นขณะที่มีความหวังว่าจะมีเม็ดเงินจากกองทริกเกอร์ฟันด์ใหม่ๆเข้ามาซื้อหุ้น
แนะกลยุทธ์ ซื้อหุ้นที่มีปันผลสูง อาทิ BTS-ADVANC-INTUCH!!
อินเด็กซ์ 51