ดีดรับ!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 29 ก.ค.58 ปิดที่ 1,417.49 จุด เพิ่มขึ้น 9.42 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 35,483.77 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,352.74 ล้านบาท

หุ้นไทยดีดรับมาตรการ 6 กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล หลัง รมว.คลัง เผยเตรียมนำเข้าที่ประชุม ครม.วันที่ 4 ส.ค.นี้

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า แม้มาตรการอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ทำให้เห็นว่ารัฐบาลพยายามผลักดันให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถือว่าดีกว่าไม่ทำอะไรเลย และอีกเพียง 2 เดือนใกล้ปิดงบฯปี 58 ดังนั้นน่าจะมีการเร่งใช้จ่ายก่อนสิ้นเดือน ก.ย.58

มองตลาดระยะสั้น หากผลประชุมเฟดออกมา ไม่เร่งรัดการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจทำให้นักลงทุนคลายความกังวลและทำให้ตลาดมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ ด้านเทคนิคให้แนวรับ 1,400-1,390 จุด แนวต้าน 1,430 จุด

ปิดท้าย งานสัมมนา “ผู้จัดการกองทุนมองหุ้นไทย ได้จังหวะเก็บ จริงหรือ?” โดย “มนรัฐ ผดุงสิทธิ์” กรรมการผู้จัดการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คาดหุ้นไทยจะไม่ปรับลงต่ำกว่า 1,350-1,380 จุด ดัชนีระดับนี้จะทำให้พี/อีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 13.5-14 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่น่าลงทุน ขณะที่ยอมรับว่าต้นปีเคยมองว่า หุ้นไทยครึ่งปีหลังน่าจะยืนที่ 1,600 จุดได้ แต่ตอนนี้รับสภาพ เพราะโครงการลงทุนรัฐช้าหมด ยังเจอภัยแล้งอีก ทำให้ปรับลดดัชนีสูงสุดปีนี้เหลือ 1,520-1,550 จุด

แนะเลือกหุ้นที่มีอัตราเติบโตสูงและซื้อขายทำกำไรบ้าง เพราะกลยุทธ์เลือกหุ้นคุณค่าหรือ VI ไม่สามารถทำได้แล้ว เนื่องจาก พี/อี ของหุ้นแต่ละตัวอยู่ในระดับสูงแล้ว ขณะที่ต่างชาติไม่ได้มองว่าหุ้นไทยเป็นตลาดที่จำเป็นต้องลงทุน ต่างชาติจึงเล่นสั้นซื้อๆขายๆ ฉะนั้นกลยุทธ์ซื้อ–ถือยาวใช้ไม่ได้แล้ว แต่ทยอยซื้อเป็นประจำเพื่อลดความเสี่ยงได้ และแนะให้ทยอยลงทุน LTF แบบเป็นประจำ

ส่วน “สุภาพร ลีนะบรรจง” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า จุดต่ำสุดของหุ้นไทยปีนี้น่าจะอยู่ที่ 1,350-1,380 จุด เป็นระดับที่น่าลงทุนแล้ว โดยเฉพาะระยะ 3-5 ปี มองว่าหุ้นไทยยังอยู่ในสายตาต่างชาติ แต่ต้องรอประเมินเศรษฐกิจก่อน คาดไตรมาส 4 ปีนี้ เมื่อโครงการภาครัฐเบิกจ่ายได้จริง จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ขณะที่แนะให้เริ่มซื้อสะสมกองทุน LTF และ RMF ได้แล้ว

ด้าน “จักรชัย บุญยะวัตร” ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบริหารช่องทางจัดจำหน่าย บลจ.แมนูไลฟ์แนะนำให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนหุ้นมากขึ้น ในหุ้นที่ไม่ผันผวนมาก เช่นหุ้นที่เกี่ยวกับโครงการภาครัฐ หุ้นสื่อสาร ท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน และกลุ่มเฮลธ์แคร์!!

อินเด็กซ์ 51