ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,569.73 จุด ลบ 17.62 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 56,637.72 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 610.42 ล้านบาท
หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 369 บาท บวก 3 บาท, TRUE ปิด 11.40บาท ลบ 0.20 บาท, MIDA ปิด 1.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.21 บาท, AJD ปิด 12.90 บาท บวก 2.90 บาท และ VGI ปิด 13.40 บาท ลบ 0.60 บาท
หุ้นกลุ่มเช่าซื้อปรับตัวขึ้นโดดเด่น หลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล 3.6 แสนล้าน โดยจากสถิติในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผล บวกต่อหุ้นกลุ่มลีสซิ่งจากความคาดหวังต่อเม็ดเงินของประชาชนที่จะไหลเข้าสู่ระบบลีสซิ่งรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ และเครื่องจักรกลทางการเกษตรมากขึ้น
ขณะที่ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า หุ้น GCAP, TK, GL, SAWAD, SINGER และ AEONTS เป็นหุ้นที่ฝ่ายวิจัยประเมินว่าจะได้ผลบวกสูงสุดจากประเด็นการอัดฉีดเม็ดเงินรวมกว่าแสนล้านบาทช่วยเหลือรากหญ้าและเกษตรกร
โดยแบ่งการวิเคราะห์ดังนี้ 1.กลุ่มที่ได้ผลบวกจากมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ประกอบด้วย GCAP, TK, GL, SAWAD และ SINGER โดยเฉพาะ GCAP (ปล่อยสินเชื่อรถจักรกลเกษตร) ซึ่งมีฐานลูกค้าเป็นเกษตรกรทั้งหมด ตามด้วย TK, GL (ปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์) รวมไปถึง SINGER (25% เป็นเกษตรกร) ซึ่งฐานลูกค้าส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นเกษตรกรเช่นกัน และ 2.กลุ่มที่ได้ผลบวกจากมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ซึ่งฐานลูกค้าของทุกบริษัทที่กล่าวถึง จะได้รับผลบวกจากมาตรการนี้ โดยเฉพาะ AEONTS ซึ่งก่อนหน้านี้ ฝ่ายวิจัยได้นำเสนอไปแล้วว่าจะได้รับผลบวกจากมาตรการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 8% เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่เป็นข้าราชการสัดส่วนถึง 20-30% ของลูกค้ารวม
ขณะที่ SINGER ก็มีฐานลูกค้าข้าราชการสัดส่วน 5% ของลูกค้ารวม ทั้งนี้ เลือก GCAP (ให้มูลค่าพื้นฐาน 6 บาท), AEONTS, SINGER (มูลค่าพื้นฐาน 121 บาท), KCAR (มูลค่าพื้นฐาน 13.62 บาท) เป็น Top picks ของกลุ่มลีสซิ่ง จากการเติบโตของธุรกิจและกำไรที่โดดเด่นครึ่งหลังปีนี้
สำหรับมุมมองภาพรวมตลาด บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ดัชนีที่เข้าใกล้แนวต้านสำคัญ 1,600 จุด ทำให้มีความเปราะบางมากขึ้น เมื่อได้รับ Sentiment เชิงลบจากต่างประเทศ
มองแนวโน้มหุ้นไทยระยะสั้นมีลุ้นรีบาวน์ แต่อาจไม่มากนัก ให้จับตาผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอของกลุ่มยูโรโซน มองเป็นรอบของการปรับพักฐานรอบใหญ่ แต่ไม่น่าลงลึกมากนัก ไม่น่าจะลงไปลึกกว่า 1,530 จุด เพื่อที่จะปรับขึ้นต่อไป
กลยุทธ์ลงทุนแนะขายหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมาแพงแล้ว โยกเข้าซื้อหุ้น Laggard เช่น TASCO-SYNTEC-STPI-ADVANC-INTUCH!!
อินเด็กซ์51