เกาะติดกรณีหุ้นบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น RS และ บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น RSXYZ ของ “เฮียฮ้อ” หรือ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จนวันนี้ราคาทำจุดต่ำสุดของวัน (ฟลอร์) นับเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่าอาจเกิดจากการบังคับขาย หรือ ฟอร์ซเซล หรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีหุ้นที่วางเป็นหลักประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้นเดือนพฤศจิกายน 2567 มีจำนวนกว่า 222.10 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 10.18% ของหุ้นทั้งหมด ขณะเดียวกัน พบการทยอยขายหุ้นของผู้บริหารช่วงปลายปี 2567 อาจกดดันต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน
รองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ ในฐานะโฆษก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับกรณีในหุ้น RS ที่มีประเด็นในเรื่องราคาปรับตัวลดลงแรง และมีความกังวลในตลาดนั้น ต้องพิจารณาว่าเรื่องดังกล่าวนั้นเกิดจากอะไร ซึ่งในเรื่องของการจำนำหุ้น หรือ การใช้บัญชีมาร์จิ้น และการถือสถานะในตลาดฟิวเจอร์สนั้น
เป็นเรื่องของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งบทบาทของตลาดหลักทรัพย์จะติดตามในเรื่องการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก
ทั้งนี้ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ทำงานร่วมกับทาง ก.ล.ต. ในการปรับปรุงและยกระดับการรายงานข้อมูลกับนักลงทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับนักลงทุนในการตัดสินใจลงทุน ทั้งการอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงการเปิดเผยข้อมูลหุ้นที่นำไปค้ำประกัน เพื่อให้นักลงทุนประกอบการตัดสินใจลงทุน
ล่าสุด บริษัท อาร์เอส จํากัด (มหาชน) หรือหุ้น RS ออกมาชี้แจงโดยระบุว่า ราคาหุ้นของ RS ที่มีการปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากกลไกของตลาด และปัจจัยภายนอก ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการดําเนินธุรกิจและสถานะทางการเงินของบริษัทฯ
สําหรับข่าวจากสื่อมวลชน บางสํานักที่ระบุว่าผู้บริหารของบริษัทฯ มีการขายหลักทรัพย์ตามเงื่อนไข (Forced sell) บริษัทฯ ไม่ทราบถึงประเด็นดังกล่าว และกําลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยืนยันว่า ไม่มีปัจจัยภายในที่ส่งผลกระทบต่อการดําเนินธุรกิจ และการดําเนินงานของบริษัทฯ ยังเดินหน้าไปตามวิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ในปี 2568
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นมองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอตามพันธกิจที่มีเป้าหมายสําคัญในการยกระดับความสุขและ ความเป็นอยู่ที่ดี (Life Enriching) พร้อมดําเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส เพื่อให้ทุกธุรกิจในเครือเติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัทฯ ขอขอบคุณในความไว้วางใจและสนับสนุนบริษัทฯ ของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกท่าน หากบริษัทฯ มีพัฒนาการที่ส่งผลต่อการดําเนินธุรกิจที่สําคัญใดๆ บริษัทฯ จะแจ้งให้นักลงทุนทราบผ่านช่องทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนวโน้มไตรมาส 4/67 คาด RS ยังคงมีผลขาดทุน จากการดำเนินงานปกติต่อเนื่องฐานะทางการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 3/67 มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ย 3,839 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้น 1,507 ล้านบาท เงินกู้ระยะยาว 1,835 ล้านบาท (ครบกำหนด 1 ปี 502 ล้านบาท) และหนี้สินสัญญาเช่าทางการเงิน 497 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 3,141 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน 1.5 เท่า เรามองว่าฐานะการเงินไม่แข็งแรงนัก ภายใต้สภาวะที่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มขาดทุน
นอกจากนี้ จากข้อมูลการใช้หุ้นวางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้น ตามรายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ เดือนพฤศจิกายน 2567 เราพบว่าหุ้น RS ถูกใช้เป็นหลักทรัพย์วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้นของลูกค้าจำนวน 222 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และคิดเป็นสัดส่วน 60% ของการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย มีความเสี่ยงถูก Force Sell เมื่อราคาหุ้นลดลง
และยังพบว่าช่วงปลายปี 2567 ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ RS มีการขายหุ้น 4-5 ครั้ง (ครั้งละประมาณ 5-10 ล้านหุ้นที่ราคา 5.5-5.86 บาท/หุ้น) แม้ว่าจะคิดเป็นสัดส่วนไม่มาก เมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมด แต่เรามองไม่เป็นบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney