สัญญาณเสี่ยง! ฟันด์โฟลว์ไหลออกต่อ หวั่นเงินบาทอ่อนแตะ 36 บาท จับตาดอกเบี้ย-สงครามการค้า

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

สัญญาณเสี่ยง! ฟันด์โฟลว์ไหลออกต่อ หวั่นเงินบาทอ่อนแตะ 36 บาท จับตาดอกเบี้ย-สงครามการค้า

Date Time: 8 ม.ค. 2568 09:40 น.

Video

ไทยฝันเป็น “ฮับการเงิน” แต่จะไปให้ถึงยังไงดี ? | Digital Frontiers

Summary

  • ค่าเงินบาทหลังอ่อนค่าเร็วและแรงตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่ามีโอกาสอ่อนค่าแตะ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ชี้เป็นสัญญาณเสี่ยงเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง

Latest


เกาะติดสถานการณ์ค่าเงินบาทหลังอ่อนค่าเร็วและแรงตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 นี้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่ามีโอกาสอ่อนค่าแตะ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ชี้เป็นสัญญาณเสี่ยงเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนมองหาหุ้นพื้นฐานดีที่อาจได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่มากนัก

วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นกับ “Thairath Money” ว่า ทิศทางค่าเงินบาทในปีนี้มีโอกาสอ่อนค่าหลุด 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ คาดเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33-36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ซึ่งต้องติดตามปัจจัยหลัก โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะปรับลดดอกเบี้ยจำนวนกี่ครั้งในปี 2568 หากยังคงดำเนินนโยบายปรับลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปี 2568 อาจเห็นการอ่อนค่าของเงินบาทต่อเนื่อง ทั้งนี้ก็คงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะรายงานหลังจากนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน ต้องติดตามสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ ว่านโยบายภาษีจะเข้มงวดมากเพียงใด หากเข้มงวดมากก็อาจกดดันการค้าโลก และกระทบกับการส่งออกไทยให้มีผลต่อเงินบาททางอ่อนค่า

สำหรับเงินบาทต้นปี 2568 ที่อ่อนค่าเร็วและแรง มองว่าปัจจัยกดดันหลักๆ เกิดจากการแข็งค่าของ Dollar Index เป็นเพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่รายงานมาแล้วดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ประกอบกับเงินเฟ้อเริ่มไม่ลดลง ทำให้ CME FED Watch คาดการณ์ว่าดอกเบี้ยจะลดลงเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ประกอบกับไทยจะเริ่มหมดช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวกดดันค่าเงินบาท

เมื่อถามว่าทิศทางกระแสเงินลงทุนต่างชาติจะยังไหลออกจากตลาดหุ้นไทยต่อหรือไม่ มุมมองคือไม่น่าจะเห็นการกลับมาซื้ออย่างมีนัยยะ หากไม่มีสัญญาณลดดอกเบี้ยของเฟดที่มากกว่า 1 ครั้ง หรือต่อให้เฟดลดดอกเบี้ย ก็คงเป็นลักษณะกลับมาเก็งกำไรระยะสั้นๆ มากกว่าจะซื้อเป็นแนวโน้ม 

ที่ผ่านมาต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย เป็นเพราะโครงสร้างตลาดหุ้นไทยที่ไม่น่าสนใจในระยะยาว โดยเฉพาะการที่มีแต่อุตสาหกรรมเก่าๆ (พลังงาน, ธนาคาร, ค้าปลีก) ต่างกับประเทศฝั่งพัฒนาแล้วที่ประกอบไปด้วยกลุ่มเทคโนโลยี ที่กำลังเป็นที่ต้องการของโลก

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนมองหาหุ้นพื้นฐานดี ที่อาจได้ประโยชน์เล็กน้อยจากบาทอ่อนค่า เช่น หุ้นกลุ่มส่งออก อย่าง ITC ส่วนกลุ่มอื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่ธนาคาร ได้แก่ BBL และ KTB ผลจาก Valuation น่าสนใจ และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ปรับลงไม่มาก


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ