CPAXT-CPALL เสี่ยงสำรองอันดับเครดิตลด กดหุ้นร่วงต่อ The Happitat ยังไม่ทำกำไร หวั่นหนี้ชนเพดาน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

CPAXT-CPALL เสี่ยงสำรองอันดับเครดิตลด กดหุ้นร่วงต่อ The Happitat ยังไม่ทำกำไร หวั่นหนี้ชนเพดาน

Date Time: 19 ธ.ค. 2567 16:14 น.

Video

บุกโรงงาน PANDORA ช่างไทยผลิตจิวเวลรี่ แบรนด์โลกแสนล้าน | On The Rise

Summary

  • ราคาหุ้น CPAXT และ CPALL ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลัง ทริสเรทติ้ง ระบุว่าการเข้าซื้อโครงการ “The Happitat” ของ CPAXT ซึ่งใช้เงินทุนจากการกู้ยืมเป็นหลัก อาจกระทบสถานะทางการเงิน และทำให้ระดับสำรองสำหรับอันดับเครดิตปัจจุบันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ราคาหุ้น CPAXT และ CPALL ปรับตัวลดลงต่อเนื่องวันนี้ หลัง ทริสเรทติ้ง ระบุว่าการเข้าซื้อโครงการ “The Happitat” ของ CPAXT ซึ่งใช้เงินทุนจากการกู้ยืมเป็นหลัก อาจกระทบสถานะทางการเงิน และทำให้ระดับสำรองสำหรับอันดับเครดิตปัจจุบันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ยังสร้างคำถามถึงความเหมาะสม เนื่องจากโครงการดังกล่าวไม่ได้สอดคล้องกับธุรกิจค้าปลีกหลักของ CPAXT อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาผลกระทบต่อสถานะการเงินในอนาคต ว่าการลงทุนดังกล่าวจะช่วยสร้างความคุ้มค่าหรือเพิ่มความเสี่ยงต่ออันดับเครดิตหรือไม่

โดย ทริสเรทติ้ง มองว่าการซื้อกิจการโครงการ “The Happitat” โดยบริษัทซีพีแอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (CPAXT) นั้น อาจส่งผลกดดันต่อสถานะทางการเงินของบริษัทและลดความสามารถในการรักษาอันดับเครดิตในปัจจุบันของบริษัทเอาไว้ได้

แม้ว่าอันดับเครดิตของทั้ง CPAXT และบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่การซื้อกิจการดังกล่าวอาจส่งผลให้ระดับสำรองสำหรับอันดับเครดิตปัจจุบันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ธุรกรรมดังกล่าวซึ่งมีมูลค่าประมาณ 8 พันล้านบาทนั้น คาดว่าจะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมเป็นหลัก

นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ CPAXT ลงทุนครั้งนี้ยังอาจจะต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเติมอีกประมาณ 7 พันล้านบาทโดยที่โครงการจะยังไม่ได้สร้างผลตอบแทนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าแต่อย่างใด

ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ของ CPALL ณ เดือนกันยายน 2567 อยู่ที่ระดับ 4.5 เท่า เมื่อพิจารณาจากภาระหนี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นและกำไรที่อาจจะลดลงแล้ว อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ของ CPALL จึงอาจเพิ่มสูงขึ้นจนใกล้เคียงกับเกณฑ์การปรับลดอันดับเครดิตของทริสเรทติ้งที่ระดับ 5 เท่า

นอกจากนี้ การซื้อกิจการดังกล่าวยังส่งผลต่อประเด็นในเรื่องความเหมาะสมในการลงทุนอีกด้วย เนื่องจากยังมีความไม่ชัดเจนว่าการซื้อกิจการนั้นมีความสอดคล้องกับธุรกิจค้าปลีกซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ CPAXT

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 CPAXT ได้ประกาศการจัดตั้งบริษัทย่อยชื่อบริษัท แอ็กซ์ตร้าโกรทพลัส จำกัด (AGP) ซึ่งบริษัทถือหุ้น 95% และอีก 5% ถือโดยบริษัท เอ็มคิวดีซีทาวน์คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดย AGP จะถือหุ้น 100% ในบริษัทแฮปปี้แททแอทเดอะฟอเรสเทียส์ จำกัด (HATF) ซึ่งดำเนินโครงการ “The Happitat” อันประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และอาคารศูนย์กลางสาธารณูปโภค

ปัจจุบันทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของ CPALL ที่ระดับ “AA-” และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Hybrid Debentures) ของบริษัทที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่”

ส่วน CPAXT นั้นทริสเรทติ้งประเมินให้มีสถานะเป็นบริษัทย่อยหลักของ CPALL รวมทั้งจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของ CPAXT ที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่”

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ