กระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มกลับมาถูกจับตาอีกครั้ง เมื่อข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รายงานว่า นักลงทุนต่างชาติได้เทขายหุ้น 20,688 ล้านบาท แต่ในทางตรงกันข้ามดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับตัวเพิ่มขึ้น โดยในมุมมองของนักวิเคราะห์มองว่า กองทุน “วายุภักษ์” มีส่วนสำคัญในการช่วยประคองตลาดไว้ แต่ในขณะเดียวกันยังต้องติดตามปัจจัยการเมืองที่จะมีผลกับตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออก 12 วัน แต่ทำไมหุ้นใหญ่ยังขึ้นเด่น ในช่วงที่ผ่านมา แม้ต่างชาติจะขายสุทธิหุ้นในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ถูกขายสุทธิติดต่อกันนาน 12 วันทำการ ด้วยมูลค่าสูงถึง -2.07 หมื่นล้านบาท
เช่นเดียวกับกระแสเงินทุนที่ชะลอหรือไหลออกหุ้นในกลุ่ม TIP ช่วง 25 ก.ย. – 10 ต.ค. 67 กดดันตลาดหุ้นอินโดนีเซีย -3.8%, ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ -0.3% แต่ตลาดหุ้นไทยกลับยังบวกได้ 0.4% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกองทุนวายุภักษ์คอยหนุนพยุงตลาดฯ และยังสังเกตได้ว่า ดัชนีหุ้นขนาดใหญ่ อย่าง SET50 ปรับขึ้นได้เด่นกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยที่เพิ่มขึ้น 1.1% แต่ดัชนีหุ้นขนาดเล็ก อย่าง MAI ปรับลง -3.1% แสดงให้เห็นว่าสถาบันฯ หรือกองทุนวายุภักษ์เน้นและให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม การเมืองไทยเริ่มระอุ กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวน ในช่วงคำตัดสิน วานนี้ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ได้ยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เลิกทำการที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ซึ่งรายละเอียดมีด้วยกัน 6 ข้อหลัก ดังรูปด้านล่าง ซึ่งกระบวนการต่อไปคือ ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่ โดยหากเปรียบเทียบกับ TIMELINE คดียุบพรรคก้าวไกล ศาลใช้เวลาราว 2 เดือนในการพิจารณารับ และใช้เวลารวมกว่า 6 เดือนในการตัดสินคดีความ
ขณะที่ในมุมตลาดหุ้นไทย ปัจจัยการเมืองร้อนแรง เคยกดดัน FUND FLOW ไหลออกหุ้นไทยติดต่อกัน 26 วันทำการ (ช่วง พ.ค. - ก.ค. 24) เป็นการขายติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ พร้อมกับมีสัดส่วน SHORT SELL สูงถึง 13% -17% ของมูลค่าซื้อขาย ซึ่งในปัจจุบัน FUND FLOW ต่างชาติไหลออก 12 วัน - 5 - ติด มูลค่าราว 2.07 หมื่นล้านบาทแล้ว จึงทำให้อาจเห็นความผันผวนของ SET ได้ในช่วงรอคำตัดสิน
สรุป การเมืองไทยกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังนายธีรยุทธได้ยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยความผิดของนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจกดดันให้ SET ผันผวนในช่วงคำตัดสินได้ โดยวันนี้คาดกรอบ SET อยู่ในช่วง 1460-1480 จุด
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ ช่วยสนับสนุน SET INDEX ให้มี DOWNSIDE จำกัดกว่าตลาดหุ้นอื่น อีกทั้งยังเป็นการเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้แนะนำหุ้นขนาดใหญ่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว 3 ธีม
เก็งกำไรหุ้นน้ำมัน, หุ้นอิงจีนกระตุ้นเศรษฐกิจเสาร์นี้ PTT, PTTEP, TOP, PTTGC, IVL, NER, STA, AOT
หุ้นกำไร 3Q เด่น CK, GPSC, BDMS, CENTEL, CBG, MTC, BEM
หุ้นได้ SENTIMENT คาดหวัง MSCI เพิ่มน้ำหนัก หรือกลับเข้ามาในดัชนี 6 พ.ย. นี้ MTC, GPSC, IVL
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่