หุ้นไทย 1,500 จุดเห็นแน่ แรงซื้อถาโถม หลังการเมืองชัด รอเม็ดเงินวายุภักษ์-Thai ESG ดันต่อ

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้นไทย 1,500 จุดเห็นแน่ แรงซื้อถาโถม หลังการเมืองชัด รอเม็ดเงินวายุภักษ์-Thai ESG ดันต่อ

Date Time: 6 ก.ย. 2567 17:09 น.

Video

RAVIPA จิวเวลรี่ มู มินิมอล ปั้นแบรนด์ไทยบนเวทีโลก | On The Rise

Summary

  • ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง นักลงทุนแห่ซื้อหลังปัจจัยการเมืองในประเทศมีความชัดเจน พร้อมคาดหวังเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ และกองทุน Thai ESG ที่จะเข้ามาหนุนตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปี นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และสูงกว่าระดับ 1,500 จุดได้อีกครั้ง

Latest


ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง โดยดัชนีปรับตัวขึ้น 23.39 จุด หรือ +1.67% จากวันก่อน มาอยู่ที่ 1,427.67 จุด ณ เวลา 15.07 น. นักลงทุนแห่ซื้อหลังปัจจัยการเมืองในประเทศมีความชัดเจน พร้อมคาดหวังเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ และกองทุน Thai ESG ที่จะเข้ามาหนุนตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปี


ทั้งนี้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ต่างมีมุมมองเชิงบวก โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และสูงกว่าระดับ 1,500 จุดได้อีกครั้ง โดยแนะนำลงทุนหุ้นที่อิงกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และหุ้นที่น่าจะได้รับประโยชน์ และเป็นเป้าหมายของกองทุนฯ


วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมาราวๆ 12% จากจุดต่ำสุด รับรู้ปัจจัยหนุนหลักๆจากภายในประเทศ โดยเฉพาะการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น พร้อมกับนโยบายกระตุ้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง และกองทุนวายุภักษ์


อย่างไรก็ดี มุมมองหลังจากนี้ประเมินว่ายังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก แต่เชื่อว่าจะไม่มากนัก เพราะตลาดได้รับรู้ข่าวดีไปพอสมควรแล้ว อิงการประเมินมูลค่าเหมาะสม โดยใช้กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2568 จาก Bloomberg Consensus ที่ราวๆ 101 บาทต่อหุ้น ทำให้บริเวณดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ ช่วง 1,510 จุด จะเริ่มเข้าสู่โซนแพง


ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนว่าบริเวณดังกล่าว เป็นโอกาสเริ่มทยอยลดพอร์ตการลงทุน อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์การเก็งกำไรระยะสั้น ในช่วงดัชนีปัจจุบันจนถึง 1,510 แนะนำหุ้นที่อิงกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play) ที่ราคาหุ้นxปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาดในภาพรวม (Laggard) เช่น BEM, BBL, CPN, KBANK, KTB


ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโมเมนตัมเป็นขาขึ้น โดยประเมินเดินหน้าเข้าสู่เป้าหมายสิ้นปี 2567 ประเมินที่ 1,540 จุด แรงหนุนจากการเมืองภายในชัด หนุนการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2567 โต 2.4% และปี 2568 คาดโต 2.8-3.0%


พร้อมกันนี้ ประเมินว่าแรงหนุนหลัก คือ เม็ดเงินใหม่จากกองทุนวายุภักษ์ และกองทุน Thai ESG ในช่วงปลายปี ประเมินเม็ดเงินที่ระดับ 1.2-1.7 แสนล้านบาท คาดจะเข้ามาช่วงที่เหลือของปี 2567


โดยกลยุทธ์เน้นลงทุนหุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์ และอยู่ใน Thai ESG ใน 4 กลุ่ม ได้แก่

  1. หุ้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และมีแนวโน้มเติบโตดีในช่วง 2567-2568 ได้แก่ AOT, PTT, KTB
  2. หุ้นที่อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และซื้อขายในระดับ Valuation Zone รวมถึงมีแนวโน้มการเติบโตดี ได้แก่ CPALL, SCC, MINT, CRC, HMPRO, SCC
  3. หุ้นที่มีน้ำหนักใน SETESG สูง และมีแนวโน้มการเติบโตดี อยู่ในธีม Data Center ได้แก่ ADVANC, GULF มีโอกาสเป็นเป้าหมาย
  4. หุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์ ธีมที่ 4 คืออัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 2567-2568 สูงมากกว่า 5% และอยู่ใน Thai ESG ได้แก่ KBANK, BBL, HMPRO, INTUCH
     

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์