เริ่มแล้ว! สำหรับการเปิดขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง หรือ กองทุน VAYU1 ให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อ ตั้งแต่วันที่ 16-20 กันยายน 2567 ที่ราคาหน่วยละ 10 บาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
โดยกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง มีกลไกการคุ้มครองเงินต้น ให้ผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% ต่อปี และไม่เกินกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นสูง 9% ต่อปี ซึ่งจะมีการจ่ายปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว 10 ปี
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ในฐานะหนึ่งในบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ประเมินว่า ผลตอบรับจากนักลงทุนในการเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนวันนี้ น่าจะออกมาดี จากที่ผ่านมาเห็นนักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจ และประเมินว่ายอดจองซื้อจะทำได้ตามเป้าที่ 1-1.5 แสนล้านบาท
ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ในฐานะหนึ่งในบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า ประเมินว่าผลตอบรับจากนักลงทุนในการเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนประเภท ก. วันนี้ จะออกมาดี หลังสัปดาห์ก่อนเห็นนักลงทุนหลายรายให้ความสนใจการลงทุนจำนวนมาก
ทั้งนี้ ประเมินว่ายอดขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง น่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 1-1.5 แสนล้านบาท สะท้อนจากความต้องการซื้อ และความสนใจจากนักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ส่วนจะมีโอกาสเกินเป้าหมายหรือไม่ ต้องรอติดตามว่าสัปดาห์นี้ ว่ายอดจองซื้อจะเป็นอย่างไรบ้าง
สำหรับกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง มองว่าเป็นอีกรูปแบบการออมที่มีความน่าสนใจ ซึ่งแม้ไม่ได้การันตีผลตอบแทนแบบการลงทุนในตราสารหนี้ แต่ก็มีกลไกคุ้มครองผลตอบแทน จากกลไกบริหารความเสี่ยงที่กำหนดสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ต่อมูลค่าเงินลงทุนเริ่มแรกของหน่วยลงทุนประเภท ก.
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจะได้รับเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง และหากผลการดำเนินงานในปีนั้นๆ ของกองทุนออกมาดี นักลงทุนก็มีโอกาสได้รับปันผลสูงขึ้น ในกรอบขั้นต่ำและขั้นสูง 3-9% ตามเงื่อนไขกองทุนที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ การจัดสรรหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ให้แก่ผู้ลงทุนที่เป็นประชาชนทั่วไปในครั้งนี้ ใช้วิธีการจัดสรรแบบ Small Lot First ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับการจัดสรรหน่วยลงทุนหรือไม่ โดยนักลงทุนทุกคนสามารถได้รับการจัดสรรหน่วยลงทุนที่จำนวนขั้นต่ำก่อน
อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ยังมีตลาดรองที่สามารถรองรับความต้องการนักลงทุนในการซื้อ-ขายได้ ก่อนครบกำหนด 10 ปี ซึ่งถือเป็นทางเลือกการลงทุนที่ดี โดย ธนโชติ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากนักลงทุนสนใจการลงทุนในกองทุนที่มีการคุ้มครองแบบวายุภักษ์ ก็เป็นโอกาสในการเข้าซื้อได้
ด้าน บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า วันนี้จะมีการเปิดจองกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้เห็นเม็ดเงินก้อนใหม่จากสถาบันในประเทศไหลเข้าตลาดหุ้นได้
โดยประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากกระแสเงินลงทุนต่างชาติ ที่มีการเคลื่อนมาในกลุ่ม TIP และยังมีกระแสกองทุนวายุภักษ์หนึ่งที่วันที่ 16-20 ก.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะเปิดจองซื้อหน่วยลงทุน ประเภท ก. ที่เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผ่านธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของประเทศ เพื่อเปิดโอกาสคนไทยเข้าถึงสินทรัพย์มั่นคง เพิ่มทางเลือกในการออมเงิน
ทั้งนี้ กองทุนรวมวายุภักษ์ มีระยะเวลาลงทุนเบื้องต้น 10 ปี ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วย รวมประมาณ 100,000-150,000 ล้านบาท ช่วยหนุนให้โมเมนตัมกระแสเงินลงทุนยังมีโอกาสไหลเข้าต่อ
โดยแนะนำนักลงทุนหาหุ้นที่กำลังมีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้า และดักช่วงกองทุนวายุภักษ์เริ่มเปิดขาย โดยทำการคัดกรอง 20 หุ้นที่นักลงทุนต่างชาติเก็บสะสมมามากสุด ช่วงที่ซื้อสุทธิติดต่อกัน 7 วันทำการติด (5-13 ก.ย. 67) น่าจะมีโมเมนตัมในการซื้อต่อได้ ได้แก่ KBANK, BH, BBL, CPALL, BDMS, KTB, GULF, AOT, CPN, STPI, TTB, PTTGC, HMPRO, COM7, BTS, GPSC, CPF, ICHI, CPNREIT, CBG
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้