AIRA กางแผนดันลูกเข้าไอพีโอ อสังหาฯ-ลิสซิ่ง เข้าก่อน ไม่ปิดโอกาสเข้าตลาดต่างประเทศ

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

AIRA กางแผนดันลูกเข้าไอพีโอ อสังหาฯ-ลิสซิ่ง เข้าก่อน ไม่ปิดโอกาสเข้าตลาดต่างประเทศ

Date Time: 17 ก.ค. 2567 16:06 น.

Video

ศิรเดช โทณวณิก Gen 3 ดุสิตธานี ธุรกิจที่เป็นมากกว่าโรงแรม | On The Rise

Summary

  • ไอร่า แคปปิตอล หรือ AIRA หนึ่งในกลุ่มธุรกิจใหญ่ในเมืองไทยที่ไม่ได้อยู่แค่ด้านการเงินเท่านั้น แต่ยังขยายธุรกิจไปยังด้านอสังหาริมทรัพย์ด้วย โดยหนึ่งในนโยบายสำคัญของกลุ่มไอร่า คือ การนำบริษัทลูกเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมองโอกาสเข้าระดมทุนไม่ใช่แต่ในเมืองไทย แต่ยังมองไปยังตลาดหุ้นญี่ปุ่น และ สิงคโปร์

นางนลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้านำธุรกิจในกลุ่มเข้าไอพีโอตามแผนที่วางไว้ โดยการเข้าระดมทุนจะไม่ลิมิตแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่มีโอกาสที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น หรือตลาดหุ้นสิงคโปร์ด้วย 

“ไอร่า ยังมีแผนที่จะนำบริษัทลูกเข้าไอพีโอ ซึ่งเราไม่ได้ดูแค่ตลาดหุ้นไทย แต่สนใจตลาดหุ้นญี่ปุ่น หรือตลาดหุ้นสิงคโปร์ด้วย ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับพันธมิตรทางธุรกิจของเรา ว่าพวกเขามองว่าตลาดหุ้นไหนจะมีความเหมาะสม”

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ AIRA สนใจเข้าระดมทุนในต่างประเทศ เพราะมีกฎเกณฑ์ที่เอื้ออำนวยกับการระดมทุนมากกว่า แต่ไม่ได้ปิดโอกาสที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทยเช่นกัน ซึ่งตัดสินใจร่วมกับทางพาร์ตเนอร์ร่วมกัน โดยบริษัทที่คาดว่าจะผลักดันให้เข้าระดมทุนได้เป็นรายแรกๆ อาจเป็นธุรกิจในด้านอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจด้านลิสซิ่ง 

ซึ่งที่ผ่านมา กลุ่มไอร่า จะให้ความสำคัญในธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ผ่านทาง บริษัท ไอร่า พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หลังจาก อาคาร Spring Tower อาคารสำนักงานของบริษัทที่ประสบความสำเร็จมีผู้เช่าอาคารจำนวนมากสร้างรายได้สม่ำเสมอ มีอัตราการเช่าอยู่ที่ 87% และในสิ้นปีนี้คาดว่าจะทะลุ 90% ได้

ทั้งนี้ปัจจุบัน ไอร่า พร็อพเพอร์ตี้ มีผลประกอบการที่กำไร และสามารถเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ นอกจากนี้ในอนาคตหากมีการเพิ่มสินทรัพย์ภายใต้การดูแลที่มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท อาจพิจารณาในการตั้งกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ รีทสต์ 

ย้ำต่างชาติยังสนใจลงทุนในไทย 

อย่างไรก็ตามในกลุ่ม AIRA มีการลงทุนร่วมกับพันธมิตรทั้งเกาหลี และญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน และนลินี มองว่า พวกเขายังให้ความสนใจลงทุนต่อ และคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาว โดยกล่าวว่าแม้ที่ผ่านมาเงินเยนอ่อนค่าลงไปมาก เกิดความกังวลว่านักลงทุนญี่ปุ่นจะไม่มาลงทุนในต่างประเทศ แต่ในความเป็นจริงขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นและการคาดการณ์ผลตอบแทนที่เขาคิดว่าจะได้ นักลงทุนญี่ปุ่นสามารถรอผลตอบแทน 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปีได้ เพราะเขามองว่าการลงทุนระยะยาว

ซึ่งหากเราหวังว่านักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุน คือ ต้องมีหลักธรรมภิบาลที่ดี ซึ่งไอร่าก่อตั้งมา 17 ปี เรามองว่า หลักธรรมภิบาลนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทย คือ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผุ้ลงทุน และไม่มีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จะช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นนักลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถ้าเขาเชื่อจบแล้ว ต่อให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ หรือเกิดปัญหาขึ้นพวกเขาจะเข้าใจ เพราะได้ข้อมูลที่ถูกต้องไปแล้ว ทุกเรื่องต้องชัดเจน ช่วยสร้างความเชื่อมั่น 

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ