ตลาดหุ้นไทยแม้จะให้ผลตอบแทนที่ไม่ดีนักในช่วงที่ผ่านมา แต่ในด้านการระดมทุนของธุรกิจต้องบอกว่า ยังหอมหวาน ด้วยสภาพคล่องที่มากที่สุดในอาเซียนทำให้ธุรกิจต่างเข้าไอพีโอ และในปีนี้คาดว่าจะเห็นแพลตฟอร์มออนไลน์จากต่างชาติเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นไทย
รุ่งทิพย์ เจริญวิสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้าสายงานตลาดผู้ออกหลักทรัพย์ 2 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยยังดึงดูดบริษัทในต่างประเทศเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น ในปีนี้คาดว่าจะมีธุรกิจจากต่างประเทศเข้ามายื่นไฟลิ่งเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 1 บริษัท โดยเป็นธุรกิจแพลตฟอร์ม และยังมี 5-6 บริษัทที่แสดงความสนใจเข้าระดมทุนอย่างต่อเนื่อง
“ธุรกิจในต่างประเทศยังให้ความสนใจเข้าระดมทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าจะมีบริษัทที่ยื่นไฟลิ่งเข้าไอพีโอ 1 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้”
โดยข้อมูลของบริษัทที่จะเข้าไอพีโอ เป็นบริษัทโฮลดิ้ง คอพานี จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ และมีรายได้จากไทย และกลุ่ม CLMV เป็นหลัก โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในกลุ่มไอซีที และเข้าระดมทุนด้วยเกณฑ์กำไรตามปกติ
ตลาดหุ้นไทยยังเป็นที่น่าสนใจในการระดมทุน จากสภาพคล่องมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่สูง ทำให้เป็นเสน่ห์ในการระดมทุนได้ ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ฯมีเกณฑ์ที่สนับสนุนการระดมทุนของธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม 10 ธุรกิจที่เป็น New S-Curve ที่จะเข้าระดมทุนได้ผ่านเกณฑ์มาร์เก็ตแคป ซึ่งช่วยให้การระดมทุนนั้นทำได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการเพิ่มความเข้มข้นของการเข้าระดมทุนให้มากขึ้น ทั้งทุนจดทะเบียน และกำไรของบริษัท ซึ่งในเรื่องดังกล่าวไม่กระทบให้บริษัทเลื่อนแผนไอพีโอออกไป ซึ่งบางบริษัทอาจจะเร่งการเข้าระดมทุนในปีนี้ก่อนที่เกณฑ์จะบังคับใช้ หรือในบางบริษัทเลือกที่จะระดมทุนในตลาด mai แทน ซึ่งทำให้การระดมทุนไม่ติดขัด
อำนวย จิรมหาโภคา ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์ 1 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเข้าไอพีโอในช่วงที่เหลือของปีนี้ สถานการณ์ยังน่าจับตาจากภาวะตลาดหุ้นที่มีความไม่แน่นอนสูงมาก ซึ่งในเวลานี้มีบริษัทที่ยื่นไฟลิ่งและเตรียมเข้าจดทะเบียนกว่า 40 บริษัท
“การเข้าระดมทุนในช่วงที่เหลือปีนี้เราต้องติดตามว่าจะมีมากแค่ไหน เพราะตอนที่ยื่นไฟลิ่งดัชนีอาจจะระดับหนึ่ง ตอนนี้ลงมาอยู่ที่ 1,300 จุด ดังนั้นบริษัทก็ต้องพิจารณาเรื่องการระดมทุนว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ด้วย”
ทั้งนี้ หากบริษัทได้รับการอนุมัติไฟลิ่งก็จะมีเวลาอีก 1 ปี ดังนั้นยังมีเวลาเพื่อรอความสนใจของตลาด และหากไม่เข้าตามกำหนดก็อาจจะยื่นไฟลิ่งใหม่ และดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ แต่กระบวนการต่างๆ ก็จะเร็วขึ้น
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่