คณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น NEX ชี้แจงต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตามที่ได้มีหนังสือฉบับที่อ้างถึงมายังบริษัท เพื่อขอให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสำนักงาน ก.ล.ต. รวมถึงเผยแพร่คำชี้แจงผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการรับทราบถึงการจำหน่ายหุ้นในบริษัทของ คณิสสร์ ศรีวชิระประภา และผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 และมาตรการของบริษัทในการตรวจสอบ หรือสอบทานข่าวที่เผยแพร่ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้นักลงทุนทราบ ดังรายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่อ้างถึงนั้น
ข้าพเจ้าในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ขอเรียนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ดังต่อไปนี้
(1) ข้าพเจ้าขอเรียนสรุประยะเวลาที่เกี่ยวข้องกับการถือครองหุ้นของข้าพเจ้าดังนี้
ในช่วงเดือนเมษายน 2565 ข้าพเจ้าเข้าทำสัญญากับบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง เพื่อการถือครองหลักทรัพย์ โดยเป็นแบบบัญชีมาร์จิ้น (Margin Account)
ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนเมษายน 2565-14 พฤษภาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์มีการ call margin แต่ข้าพเจ้ายังมีเงินสด หรือหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อเป็นหลักประกันอยู่
ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2567 ราคาหุ้นของบริษัทได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ช่วงตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์มีการ call margin แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถวางเงินสดหรือหลักประกันเพิ่มเติมได้ จึงโดน Forced Sell หลายราคา และหลายช่วงเวลา
(2) เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 12.00 น. ฝ่ายบริหารของบริษัทได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทไม่มีพัฒนาการใดๆ นอกเหนือจากที่ได้เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงระยะเวลาดังกล่าว บริษัทยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ ที่นอกเหนือไปจากการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท และกรณีการขายหุ้นของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยาก็มิใช่การดำเนินการใดๆ ของบริษัท อันจะส่งผลให้บริษัทมีหน้าที่แจ้งพัฒนาการของบริษัทแต่อย่างใด
(3) คณะกรรมการบริษัทได้รับทราบจากข่าวที่ข้าพเจ้าเผยแพร่ต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ว่า ข้าพเจ้าและผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยาได้จำหน่ายหลักทรัพย์ของบริษัทออกไปจำนวนหนึ่ง อันมีสาเหตุมาจากการโดน Forced Sell
(4) ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 และครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นการพิจารณาวาระเกี่ยวกับการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้กับข้าพเจ้านั้น คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาข้อมูลการถือหุ้น และราคาหุ้นของบริษัทด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ ก่อนที่จะพิจารณาลงมติให้นำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทอนุมัติในเรื่องดังกล่าวต่อไปตามที่กฎหมายกำหนด
(5) สำหรับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมติคณะกรรมการและข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ของบริษัทที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทยึดถือเป็นภาระหน้าที่อันสำคัญที่จะต้องเปิดเผยให้แก่นักลงทุนผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และก่อนที่จะมีการเปิดเผยมติต่างๆ รวมทั้งข้อมูลที่สำคัญของบริษัทผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น คณะกรรมการได้กำหนดให้ฝ่ายบริหารและบุคคลที่เกี่ยวข้องของบริษัทปฏิบัติให้ถูกต้องและครบถ้วนตามสมควร เพื่อให้มั่นใจได้ว่า บริษัทได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนต่อผู้ลงทุน
ในส่วนของการยื่นแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) ล่าช้านั้น มีสาเหตุมาจากกรณีที่ข้าพเจ้ายังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นของบริษัท ที่ยังมีการตกลงอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลให้เกิดการโดน Forced Sell อีก ดังนั้น ข้าพเจ้าและผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา จึงยังมิได้ยื่นแบบ 59 ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ตามที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ ข้าพเจ้าขอเรียนชี้แจงข้อมูลหุ้นคงเหลือของข้าพเจ้าและผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา ที่แตกต่างระหว่างแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) กับสารสนเทศที่บริษัทแจ้งผ่านระบบ SETLink นั้น
ข้าพเจ้าขอเรียนว่า เนื่องจากข้อมูลที่บริษัทได้เผยแพร่ในสารสนเทศที่บริษัทแจ้งผ่านระบบ SETLink นั้น เป็นข้อมูลจำนวนหุ้นคงเหลือของข้าพเจ้าและผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา ซึ่งเป็นข้อมูลจากการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2567 มิใช่ข้อมูลจำนวนหุ้นคงเหลือของข้าพเจ้า ณ วันที่มีการเผยแพร่ข้อมูล (19 มิถุนายน 2567) ดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่ปรากฏจำนวนหุ้นคงเหลือของข้าพเจ้า จำนวน 10,000,000 หุ้น ในแบบ 59 นั้น เป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบันที่เกิดขึ้นจากการที่ข้าพเจ้ามีการขายหุ้นของบริษัทเพิ่มเติมหลังวันที่ 6 มิถุนายน 2567 ซึ่งผ่านจากวันที่มีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทล่าสุดไปแล้ว โดยในการนี้ คณะกรรมการบริษัทจึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและได้ดำเนินการดังนี้
1) กำชับให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา ตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมการรายงานตามแบบ 59 ให้ถูกต้องตรงกับข้อเท็จจริง
2) กำชับให้ฝ่ายบริหารและบุคคลที่เกี่ยวข้องของบริษัท ดำเนินการเผยแพร่สารสนเทศของบริษัทผ่านระบบ SETLink โดยแก้ไขข้อมูลจำนวนหุ้นคงเหลือของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา ให้ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นในปัจจุบัน
ข้าพเจ้าขอเรียนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ด้วยความเคารพว่า ข้าพเจ้าในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับของบริษัท และมติคณะกรรมการ ตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นมาโดยตลอด ทั้งนี้ ข้าพเจ้าไม่มีความตั้งใจในการกระทำการใดๆ เพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทและผู้ลงทุนแต่อย่างใด
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้