มนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท พรีเมียร์ ควอลิตี้สตาร์ช จำกัด (มหาชน) หรือ PQS ผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังชั้นพิเศษ (Premiun Grade) และแป้งดัดแปร (Modifide Starch) กล่าวว่า ธุรกิจมันสำปะหลังมักถูกมองว่าเป็นอุตสาหกรรมเก่าที่ไม่น่าสนใจ แต่แท้จริงแล้วไทยเป็นผู้ส่งออกมันสำปะหลังอันดับ 1 ของโลก และยังมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก อีกทั้งมันสำปะหลังยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมอาหารไทย เน้นขายสินค้าเกษตรกรรมเป็นหลักแล้วแปรรูป ซึ่งไม่ได้สร้างมูลค่าสูง จึงไปได้ไม่ไกล ในขณะที่อุตสาหกรรมสกัดมีมูลค่าสูงมาก เราจึงต้องเริ่มใช้นวัตกรรมศึกษามันสำปะหลังว่าสามารถสกัดเป็นอะไรได้บ้าง และนำไปใช้อย่างไร
บริษัทจึงได้วางแผนยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตไว้ 8 แนวทาง จากธุรกิจแป้งไปสู่อาหาร สารสกัดจากอาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าของบริษัท จาก Food Sector สู่ Industrial Sector ประกอบด้วย
1. Market Demand, Industry Trend ความต้องการของตลาด หรือแนวโน้มตลาดจะเดินไปในทิศทางไหน
2. Supply Chain หรือห่วงโซ่อุปทาน จะบริหารให้เกิดความยั่งยืนได้อย่างไร sourcing strategy
3. Food Technology, Food Innovation เพื่อก้าวข้ามอุตสาหกรรมดั้งเดิม
4. Focus on Compliant to global ESG regulation, BCG Model Net Zero to create sustainability ต้องศึกษากฎหมายสิ่งแวดล้อม กฎระเบียบต่างๆ ของบริษัทคู่ค้าเพื่อให้พร้อมในการส่งออก เมื่อประเทศคู่ค้าออกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม กฎหมายอียู กฎหมายคาร์บอนเครดิต
5. สร้าง Cost Effectiveness เตรียมรับมือการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก
6. Consumer sustainability
7. Competitive Landscape สร้าง balance ต้องมี Networking ที่ดี เพื่อรับมือกับการแข่งขัน
8. งบลงทุนทางด้านนวัตกรรมใหม่ๆ หรือ Innovation Investment Budget
รัฐวิรุฬห์ ชาญจึงถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PQS กล่าวว่า บริษัทพร้อมเปิดรับพันธมิตรใหม่ๆ ในทุกรูปแบบ เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งการหาตลาดใหม่ๆ ปัจจุบันบริษัทมีการจำหน่ายในประเทศ 30% ส่งออกประมาณ 70% โดยตลาดหลักไปประเทศจีนมีสัดส่วน 90% และอยู่ระหว่างหาตลาดใหม่ๆ ทั้งเอเชีย เช่น อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน รวมทั้งตลาดยุโรป โดยตั้งเป้ายอดขายรวมสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นระดับ 10-20%
“เราจะมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งธุรกิจต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โดยยึดหลักการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการทำงานร่วมกับชุมชนอย่างลงตัวเพื่อเตรียมไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งการสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลังดัดแปร บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้” รัฐวิรุฬห์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าโครงการสร้างโรงงาน 2 แห่ง พร้อมเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2567 ประกอบด้วย โรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต จังหวัดกาฬสินธุ์ และโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังดัดแปร (Modified Starch) ที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อต่อยอดไปยังธุรกิจปลายน้ำ สร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้โรงงานอยู่ระหว่างการทดสอบเครื่องจักร และปรับการดำเนินการทำงานให้อยู่ภายใต้กฎหมายข้อบังคับ ล้อไปกับประเทศคู่ค้าปลายทาง
โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จากมันสำปะหลังดัดแปรภายในครึ่งหลังปี 2567 และช่วยเพิ่มกำลังการผลิต 40% ของกำลังการผลิตทั้งหมดในช่วงปีแรก ด้านโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (Biogas) ที่นำของเสียที่เกิดจากการผลิตมันสำปะหลัง มาผลิตเป็นไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณไตรมาส 4/2567 หรือไตรมาส 1/2568
สำหรับเป้าหมายช่วง 3-5 ปี เนื่องด้วยมันสำปะหลังดัดแปรต่างชาติเป็นเจ้าตลาด ลำพังด้วยขนาดธุรกิจคนไทยไม่สามารถแข่งขันได้ บริษัทเลยวางตำแหน่งธุรกิจเป็นบริษัททำแป้งดัดแปรรูปแบบ custom made ควบคู่ไปกับการเป็น solution provider
ทั้งนี้ ตั้งแต่บริษัทเข้าระดมทุน IPO ในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา ได้มีหลายบริษัทในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง สนใจบริษัทร่วมทุน เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลัง ตอนนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน เช่น บริษัทในจีน
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney