ชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เกิดวันที่ 24 กันยายน 2502 ปัจจุบันอายุ 64 ปี
ชนินทร์ เคยให้สัมภาษณ์พิเศษกับ ฟอร์บส์ ประเทศไทย เมื่อปี 2565 ไว้ว่า เขาต้องการให้ภายนอกรับรู้ว่า บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เป็น Growth Company สำหรับนักลงทุนระยะยาว เป็นบริษัทที่สถาบันการเงินไว้ใจ เป็น Employer of Choice และเป็น Partner of Choice สำหรับผู้สนใจลงทุนหรือหาพันธมิตรร่วมลงทุนในประเทศไทย
เขาให้สัมภาษณ์ไว้ด้วยว่า “การสั่งสมประสบการณ์และสิ่งที่เรียนรู้มาถึงปัจจุบัน เริ่มต้นจากวัยเด็กที่ใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เรียนอนุบาล ทำให้เข้าใจในตลาดเสรี ภาษา และการเปิดกว้างทางความคิด ส่วนการเรียนปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์ ทำให้มีกระบวนการที่ชัดเจนและละเอียด”
ผ่านประสบการณ์ทำงานกับบริษัทต่างชาติในลิสต์ Fortune 100 เคยทำธุรกิจของตนเองและเข้าไปทำงานกับบริษัทมหาชนและเป็นกรรมการบริษัทหลายแห่ง เห็นวงจรธุรกิจตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้ง (ปี 2540) ถึงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ (ปี 2551-2552)
ก่อนหน้านี้ สื่อหลายแห่งให้นิยามเขาคือ “ดีลเมกเกอร์” โดยนับตั้งแต่ปี 2543 ชนินทร์ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เปาโลเมดิค จำกัด และปี 2546 ชนินทร์ นั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ประสิทธิ์พัฒนา จำกัด ซึ่งถือหุ้นหลักในบริษัท โรงพยาบาลพญาไท 1 จำกัด, บริษัท โรงพยาบาลพญาไท 2 จำกัด และ บริษัท โรงพยาบาลพญาไท 3 จำกัด และต่อมาในปี 2548 เมื่อ “วิชัย ทองแตง” เข้าซื้อหุ้น บริษัท ประสิทธิ์พัฒนาฯ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ชนินทร์ก็ยังเป็นกรรมการในบริษัท ประสิทธิ์พัฒนาฯ อยู่
ชนินทร์เป็นกรรมการบริษัท รวมถึงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารในหลายบริษัท และได้รับความไว้วางใจจาก “ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ” ผู้ก่อตั้งอาณาจักร “ทีโอเอ กรุ๊ป โฮลดิ้ง” ซึ่งมีธุรกิจครอบคลุม 7 กลุ่มธุรกิจ และหนึ่งในนั้นคือ บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SWC ซึ่งชนินทร์เคยนั่งตำแหน่งประธานกรรมการ และในปี 2562 นั่งตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
กระทั่ง 18 เมษายน 2566 STARK มีหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ชนินทร์ ลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการ STARK พร้อมกรรมการอื่นๆ รวม 7 คน เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว จึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่กรรมการของบริษัทได้อย่างเต็มความสามารถ
ต่อมาวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกเอกสารเลขที่ 116/2566 ระบุว่า ก.ล.ต. กล่าวโทษบุคคลและนิติบุคคล 10 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จในบัญชีเอกสารของ STARK และบริษัทย่อยในช่วงปี 2564-2565 เพื่อลวงบุคคลใดๆ หรือ เปิดเผยงบการเงินในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนที่เชื่อได้ว่ามีการตกแต่งงบ รวมถึงปกปิดความจริงในข้อมูล Factsheet เสนอขายหุ้นกู้ STARK ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำโดยทุจริตหลอกลวง และทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง พร้อมกันนี้ได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
ทั้งนี้ รายชื่อบุคคลและนิติบุคคลที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษ มีดังนี้
ในวันต่อมาวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ออกหมายจับ “ชนินทร์” เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อว่าได้หลบหนีจากการติดตามของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและได้มีการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหา
กระทั่ง 23 มิถุนายน 2567 DSI ควบคุมตัว “ชนินทร์” ที่เพิ่งเดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในช่วงเช้า แล้วนำตัวไปบันทึกการจับกุม และพบกับพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำ โดยพนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัวชนินทร์ 48 ชั่วโมง ก่อนส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษส่งฟ้องต่อศาลอาญา ตามขั้นตอน
ทั้งนี้ ชนินทร์ เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับฐานความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชน ข้อหายักยอกทรัพย์และข้อหาฟอกเงิน มูลค่าความเสียหาย 14,778 ล้านบาท
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney