ประธานบอร์ดตลาดหุ้น ชี้อัสสเดช คือคนที่ใช่ ภารกิจเร่งด่วน กู้ความเชื่อมั่นรายย่อย

ประกาศออกมาแล้วสำหรับการคัดเลือก กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคนใหม่ ที่ล่าสุดคณะกรรมการได้คัดเลือก อัสสเดช คงสิริ เป็นกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 14 มีผล 19 ก.ย. 2567 นี้ โดยได้รับคะแนนเสียงการคัดเลือกเป็นเอกฉันท์ พร้อมกับเปิดภารกิจเร่งด่วนของผู้จัดการคนใหม่ คือ การฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายย่อย 

ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เปิดเผยว่า คุณ อัสสเดช ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการและ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์คนใหม่นั้น ได้รับเสียงการคัดเลือกอย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งภารกิจที่สำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนรายบุคคลในประเทศ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของผู้จัดการตลาดหุ้นเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของกรรมการทุกคนที่จะต้องช่วยกัน 

“การบ้านสำคัญของผู้จัดการคนใหม่ จะเข้ามารับช่วง 1-2 เดือนนี้ คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนรายบุคคล ผู้จัดการตลาดหุ้นไม่ได้มีหน้าที่เพียงคนเดียว แต่เป็นเรื่องที่กรรมการบอร์ดต้องช่วยกัน”

ทั้งนี้ในการคัดเลือกคุณ อัสสเดช การเลือกตั้งผู้จัดการ พิจารณาจากกรรมการ 10 คน ได้รับเสียง “เอกฉันท์” ซึ่งเขามองว่า เขาจะเน้นนักลงทุนรายย่อย และสถาบันต่างประเทศ โดยเอาสินค้าใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศเข้ามาในไทย ซึ่งเขามีคอนเน็กชันในต่างประเทศ 

โดยในการคัดเลือกคณะกรรมการได้รับฟังวิสัยทัศน์ของ อัสสเดช นั้นมีทิศทางที่ดีมาก และมีอะไรใหม่ๆ เช่น ให้บริษัทจดทะเบียนเขียนแผน ระยะ 2-3 ปีข้างหน้าว่าจะเพิ่ม ผลตอบแทนผู้ถือหุ้น หรือ ROE อย่างไร และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ  ROI อย่างไร เน้นบริษัทที่มีการเติบโตโดยใช้แหล่งข้อมูลและ AI เข้าไปช่วย เอาข้อมูลวิเคราะห์เปิดเผยข้อมูลให้นักลงทุนทราบ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งกับผู้ลงทุน 

ซึ่งที่ผ่านมามีข้อห่วงใยว่า ผู้จัดการคนใหม่มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศ และอาจให้ความสำคัญกับนักลงทุนต่างชาติ หรือไม่ ในประเด็นดังกล่าว มองว่า อัสสเดช ทำงานในบริษัทต่างประเทศจริง แต่เขาเคยมีประวัติการทำงานในปตท. ยาวนานกว่า 10 ปี และอยู่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า อีก 10 ปี มองว่ามีประสบการณ์ทั้งทำงานกับองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เขารู้ความต้องการและมีคอนเน็กชันที่ดีที่ช่วยในการเชื่อมต่อกับต่างประเทศได้ 

ส่วนประเด็นที่ อัสสเดช เคยทำงานที่บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ ที่ปรึกษา จำกัด เป็นคนละบริษัทกับ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด ที่เคยผู้สอบบัญชีที่เคยสอบบัญชี STARK

คุณอัสสเดช ได้เริ่มงานที่ ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ ที่ปรึกษา เมื่อเดือน มิ.ย. 2565 ขณะที่ผู้สอบบัญชีของ STARK ในปี 2565 คือ PWC ด้านการถือหุ้นของคุณอัสสเดช ไม่ใช่การลงทุนหรือถือครองหุ้นส่วนตัว เนื่องจากปกติ authorized director จะได้รับโอนหุ้นหลังแต่งตั้ง และเมื่อลาออกก็จะโอนออกให้ Partner คนอื่นตาม protocol ของบริษัท

อย่างไรก็ตาม ประธานฯ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมองว่า การฟื้นความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกัน โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้หารือกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เพื่อหาวิธีการทำคดีต่างๆ ให้รวดเร็วขึ้น โดยภายใต้วาระการทำงานในตำแหน่งประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วง 15 เดือนนี้ เราต้องเน้นการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในช่วง 6 เดือน ถึง 1 ปี จะต้องเข้มข้นขึ้น  

โดยตลาดหลักทรัพย์เป็นแหล่งการออมเงินที่สำคัญกับประชาชนไทย ในยุคหนี้ครัวเรือนเยอะมากหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ การให้ความรู้ทางการเงิน ต้องปรับบริษัทจดทะเบียนให้ดีขึ้น ในด้านข้อมูล ซึ่งข้อมูลล่าสุด รายได้หลักๆ ของบริษัทโตกว่าคาดการณ์เยอะ ท่องเที่ยว ธุรกิจเพื่อสุขภาพ อาหาร ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด เพียงแต่ข้อมูลอาจยังไม่ถึงนักลงทุน เรามีหน้าที่เอาข้อมูลนี้มาและเผยแพร่ ให้โบรกเกอร์ไปใช้ บริษัทดีๆ ยังมีเยอะทั้งหุ้นราคาต่ำกว่า P/BV และหุ้นปันผล เยอะมาก ระยะยาว บริษัทที่มีการเติบโต และมีบาลานซ์ ผู้ลงทุนต้องข้อมูลพวกนี้ เพียงแต่ที่ผ่านมานักลงทุนไทยเน้นการเก็งกำไรตามข่าวลือ เป็นหุ้นปั่น บริษัทเล็กไม่มีพื้นฐานที่ดี ถ้าเล่นพื้นฐานดีความเสี่ยงต่ำ ก็ได้เงินปันผล