หุ้น BANPU วิ่งทะลุ 8% รับประโยชน์ ก๊าซสหรัฐฯ พุ่ง โบรกฯ ชี้งบยังไม่เด่น จับตาแผนลดต้นทุน

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BANPU ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.45 บาท หรือ 8.41% มาอยู่ที่ 5.80 บาท นักวิเคราะห์ฯ คาดมีแรงซื้อหลังราคาแก๊สสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น จับตาแผนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการควบคุมต้นทุน หนุนผลประกอบการฟื้น

ปรินทร์ นิกรกิตติโกศล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเห็นกับ “Thairath Money” ว่า การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นวันนี้ คาดว่ามาจากสถานการณ์ราคาก๊าซในสหรัฐฯ ที่สัปดาห์ก่อนปรับตัวขึ้นราว 5% ซึ่งธุรกิจก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดาน (Shale Gas) ในสหรัฐฯ ของบ้านปูจะได้รับอานิสงส์ด้วย

สำหรับในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ระยะสั้นมองผลประกอบการไตรมาส 2/67 ยังไม่โดดเด่น จากราคาก๊าซต้นไตรมาสที่อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อน ขณะเดียวกัน คาดว่าบ้านปูจะรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงจากไตรมาส 1/67 ด้วย

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแผนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการควบคุมต้นทุนของบ้านปู จะเริ่มเห็นผลมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกหนุนผลประกอบการในระยะถัดไปได้ ยังคงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” (Trading) ที่ราคา 6.60 บาทต่อหุ้น สำหรับราคาหุ้นที่ขึ้นมาวันนี้ หากมีหุ้น BANPU อยู่ในพอร์ต แนะนำให้ถือต่อได้

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า BANPU รายงานผลการดําเนินงานไตรมาส 1/67 พลิกกลับเป็นกําไรได้ที่ 1.55 พันล้านบาท ดีขึ้นจากงวดก่อนหน้าที่เผชิญกับผลขาดทุนที่ 1.2 พันล้านบาท รับผลบวกหลักจากรายการพิเศษบันทึกกลับเป็นกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และแผนป้องกันความเสี่ยง (HEDGING) สูง

ขณะที่ผลการดําเนินงานปกติไตรมาส 1/67 พลิกกลับเป็นขาดทุนอีกครั้งที่ 2.8 พันล้านบาท จากงวดก่อนหน้าที่เป็นกําไรปกติ 231 ล้านบาท ถูกกดดันจากทุกธุรกิจของ BANPU ยกเว้นเพียงธุรกิจไฟฟ้า

ส่วนแนวโน้มผลการดําเนินงานปกติไตรมาส 2/67 ลุ้นจะสามารถพลิกกลับเป็นกําไรปกติได้ โดยความหวังการฟื้นตัวอยู่ในทุกธุรกิจ เช่น ถ่านหินที่คาดปริมาณขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังผ่านพ้นช่วงฤดูฝนของอินโดนีเซีย ประเทศผลิตถ่านหินหลักของ BANPU รวมถึงราคาขายถ่านหิน spot อ้างอิง BJI มีแนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบัน

เช่นเดียวกับธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ที่คาดว่าน่าจะมีการบันทึกกําไรจาก hedging ได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้คาดจะได้รับผลบวกจากธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลฤดูร้อนในไตรมาส 2 ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2567 ที่ 7.0 บาทต่อหุ้น ถึงแม้ราคาหุ้นจะปรับฐานลงสะท้อนปัจจัยกระทบต่างๆ จนมี downside ที่จํากัดแล้วระดับหนึ่ง  แต่ในช่วงสั้นยังไม่มีปัจจัยบวกที่จะเข้ามาขับเคลื่อนราคาหุ้นได้ จึงเน้นเพียง “ซื้อเก็งกำไร” ช่วงสั้นๆ ตามทิศทางราคาถ่านหินและก๊าซฯ ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่หากนักลงทุนมีหุ้นอยู่จะถือรับปันผลได้ หากอิงข้อมูลในอดีตพบว่ามีการประกาศจ่ายในระดับที่ดี

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney