หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด TRUE ปิด 8.50 บาท บวก 0.35 บาท, CPALL ปิด 58.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, BDMS ปิด 29.25 บาท บวก 0.25 บาท, DELTA ปิด 73 บาท บวก 3 บาท, PTTEP ปิด 153.00 บาท บวก 1 บาท
บล.ธนชาตประเมินการลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่า ที่ผ่านมาแม้มูลค่า (valuation) ของหุ้นไทย “ไม่แพง” แต่ก็สร้างผลตอบแทนไม่ดีนัก เพราะเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจมีเพียงเครื่องยนต์เดียวคือภาคการท่องเที่ยว สะท้อนให้เห็นจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำเพียง 1.9% ในปีที่ผ่านมา แต่หากมองในมุมบวกถือว่าเป็น “โอกาส” ในการลงทุน
เพราะนอกจาก valuation ที่อยู่ในระดับต่ำแล้ว ยังเห็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีจากนักท่องเที่ยวที่โตต่อเนื่อง การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณทำให้การลงทุนภาครัฐกลับมาทำงานอีกครั้ง มาตรการ Digital Wallet ปลายปี 67 การส่งออกน่าจะฟื้นตัวได้ตามภาคการผลิตโลกที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และธนาคารกลางหลายแห่งจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยตั้งแต่กลาง-ปลายปีนี้
ประเมินว่า กลุ่มหุ้นที่มีรายได้อิงกับการบริโภค-การลงทุนภายในประเทศและการท่องเที่ยวจะมีกำไรโตได้ดี และคาดว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ CPALL-CPN-CBG-AOT-AMATA- WHA- C-STEC-MTC ขณะที่กลุ่มโรงพยาบาลอย่าง BDMS และ BH เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวที่ได้รับผลบวกจากจำนวนผู้ป่วยต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มสังคมสูงวัยในประเทศ
นอกจากนี้ยังเห็นโอกาสเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนผ่านหุ้นกู้อนุพันธ์ (Structured Note) ที่ให้อัตราผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย สูง 12% ถึง 20% ด้วยเช่นกัน!!
ปิดท้ายมีข่าวตลาดหลักทรัพย์ฯสั่งให้หุ้น บมจ. มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) เป็นหุ้นที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 1 ตั้งแต่วันที่ 7-24 พ.ค.67 ดังนี้ ห้ามคำนวณวงเงินซื้อและให้ซื้อขายได้เฉพาะเงินสดหรือ Cash Balance เท่านั้น โดยลูกค้าต้องวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับโบรกเกอร์เต็มจำนวนก่อนซื้อหุ้น
ทั้งนี้ มาตรการกำกับการซื้อขายมีปัจจัยที่ใช้พิจารณา คืออัตราหมุนเวียนการซื้อขาย (Turnover ratio) มูลค่าการซื้อขายและราคาซื้อขายที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน เช่น P/E Ratio เป็นต้น.
อินเด็กซ์ 51
คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม