TISCO กำไรไตรมาสแรก 1.7 พันล้าน ลด 3.3% รายได้ค่าฟีหด สินเชื่อโตแค่ 0.2% เร่งตั้งสำรองเพิ่ม

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

TISCO กำไรไตรมาสแรก 1.7 พันล้าน ลด 3.3% รายได้ค่าฟีหด สินเชื่อโตแค่ 0.2% เร่งตั้งสำรองเพิ่ม

Date Time: 17 เม.ย. 2567 14:24 น.

Video

สาเหตุที่ทำให้ Intel อดีตยักษ์ใหญ่ชิปโลก ล้าหลังยุค AI | Digital Frontiers

Summary

  • กลุ่มทิสโก้ เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ของปี 2567 กำไรสุทธิ 1,733 ล้านบาท ลดลง 3.3% จากปีก่อน จากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักที่ลดลง ขณะที่การตั้งสํารองหนี้เสียเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความเสี่ยงตามแผนการเร่งขยายธุรกิจ High yield

ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปี 2567 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 1,733 ล้านบาท ลดลง 3.3% จากไตรมาสก่อน  สาเหตุจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในกลุ่มธุรกิจหลักชะลอตัวลง ทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ที่ถูกกดดันจากภาวะตลาดทุนที่ยังไม่ฟื้น และรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่อ่อนตัวลง ตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ที่ชะลอตัวตามยอดขายรถยนต์ในประเทศ อีกทั้งต้นทุนทางการเงินยังเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับลดลง และคาดว่าจะถูกกดดันต่อตลอดทั้งปี 

ในส่วนของสินเชื่อรวมขยายตัวเล็กน้อยที่ 0.2% จากปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อ SME และสินเชื่อรายย่อยในกลุ่มให้ผลตอบแทนสูง โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียน “สมหวัง เงินสั่งได้” โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทเพิ่มความรอบคอบและระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อ รวมถึงติดตามและดูแลลูกหนี้อย่างใกล้ชิด 


ท่ามกลางปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังเปราะบาง และคุณภาพลูกหนี้ที่อ่อนตัวลง บริษัทเพิ่มระดับการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss - ECL) มาอยู่ที่ 0.5% ของสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อรองรับความเสี่ยงของลูกหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ยังคงรักษาอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 20.9% 

ในระยะข้างหน้า กลุ่มทิสโก้ ยังคงเดินหน้าขยายการเติบโตในธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ บนเส้นทางการเติบโตอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการรักษาความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้และภาระหนี้ของลูกค้า ตลอดจนการใช้ความเป็นมืออาชีพเข้าไปให้คำปรึกษาแนะนำลูกค้าอย่างใกล้ชิด

“ในปีนี้กลุ่มทิสโก้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ที่ระดับ 3% ลดลงจากประมาณการในครั้งก่อนที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.5% โดยเป็นการทยอยฟื้นตัวแบบ “ต้นร้าย-ปลายดี” ปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่คาดว่าจะทำได้ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นไป รวมถึงภาคการส่งออกสินค้าที่จะทยอยฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี อย่างไรก็ดี แม้เศรษฐกิจไทยจะมีสัญญาณที่ดี แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงต่างๆ อย่างใกล้ชิด ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ขณะที่คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย  มีแนวโน้มปรับลดลงในครึ่งหลังของปี และจะช่วยลดภาระต้นทุนดอกเบี้ยได้ในที่สุด


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ