หุ้นท่องเที่ยว สุดเด่น รัฐดัน “ท่องเที่ยวไทย” เป็น “วาระแห่งชาติ” ดึงต่างชาติเข้า 39 ล้านคน

หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ยังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง เมื่อรัฐบาลกำลังจะขับเคลื่อนนโยบายด้านการท่องเที่ยวให้เป็น “วาระแห่งชาติ” ในปี 2568 ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเมืองไทยช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดย วางเป้าปี 2568 ดึงทัวริสต์ต่างชาติไม่น้อยกว่า 39 ล้านคน จากปี 2567 ตั้งเป้าหมาย 35 ล้านคน สร้างรายได้ต่างประเทศ 2.23 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม และสนามบิน 

โดย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า จากมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวนั้น ที่รัฐตั้งเป้าหมายจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามายังประเทศไทย แบ่งเป็นตลาดระยะไกล (Long-Haul) จำนวน 10,622,000 คน สร้างรายได้ 869,200 ล้านบาท และตลาดระยะใกล้ (Short-Haul) จำนวน 28,378,000 คน สร้างรายได้ 1,362,800 ล้านบาท โดยการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทำผ่าน 4 มาตรการ

 ประกอบด้วย

1. ทุกจังหวัด ทั้งเมืองหลัก และเมืองรอง ต้องเป็นเมืองท่องเที่ยว
2. ประเทศไทยจะไม่หลับใหล
3. ผลักดันการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลาง “One Visa Free Your Destination”
4. แก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว เช่น เวลาเปิด สถานบริการ เวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเฉลิมฉลองในสนามกีฬา

ความเห็นฝ่ายวิจัย : ประเด็นข้างต้น เคยถูกกล่าวถึงมาแล้วช่วงกลาง มี.ค. โดยรอบนี้มีการลงเป้าหมายนักท่องเที่ยวปี 2567-68 ตามข้างต้น ซึ่งสูงกว่า สมมติฐานปัจจุบันฝ่ายวิจัยที่ 31.5 ล้านคน และ 34.7 ล้านคน ตามลำดับ (ปี 2562 ที่ 39.8 ล้านคน) หาก 4 มาตรการข้างต้น สามารถผลักดันนักท่องเที่ยวได้ ตามเป้าหมายจริง ถือเป็น Upside ต่อประมาณการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ที่อิงกับจำนวนผู้ใช้งาน สนามบินเป็นหลัก มากกว่ากลุ่มโรงแรม เนื่องจากระดับ Occupancy rate ของโรงแรมไทยที่ฝ่ายวิจัยศึกษาขยับมาถึงระดับ 70-85% แล้ว ขณะที่การปรับขึ้น ค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) มีปัจจัยด้าน Supply ห้องพักในระบบเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงประเมินการปรับขึ้นของ ADR ในระยะข้างหน้าอยู่ในกรอบ 3-5% จากปีก่อน 

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 1 ม.ค. 67-31 มี.ค. 67 อยู่ที่ 9.4 ล้านคน บวก 16% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 44% จากปีก่อน ตามการเข้าสู่ seasonality ของท่องเที่ยวไทย คาด หนุนการดำเนินเชิงจากไตรมาสก่อน ของ AOT, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) CENTEL และบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ERW ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน (ยกเว้น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) MINT ที่ NH Hotel เข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวใน EU)

ด้านราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ล้วนให้ผลตอบแทนชนะตลาด ยกเว้น CENTEL มองว่ามาจากแรงกดดันด้านค่าแรงขั้นต่ำที่มากกว่ากลุ่มฯ ซึ่ง ฝ่ายวิจัยประเมินผลกระทบจำกัด และราคาหุ้นน่าจะตอบสนองเชิงลบแล้ว ขณะที่ หุ้นในกลุ่มฯ ช่วงนี้ มี sentiment บวก จากกระแสค่าเงินบาทอ่อนค่า ช่วยจูงใจ นักท่องเที่ยวต่างชาติตัดสินใจมาไทยเพิ่มขึ้น เลือก AOT(FV@B74) ขณะที่กลุ่มโรงแรม ในเชิงกลยุทธ์ยังคงมุมมองเดิมว่า ERW(FV@B5.5) และ CENTEL (FV@B46) ช่วงสั้นน่าสนใจกว่า MINT (FV@B35) ที่ Upside เริ่มตึงตัว