ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2567 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม 8 ราย ได้แก่ 1.นายไพศาล เกษมศิรินาวิน 2.นายปรีชา วสุโสภณ 3.นายปนิษฐ์ ศุภธาดารัตน์ 4.นายเทียนประเสริฐ พลอำไภ 5.นายวรวุฒิ ศรีโสภิต 6.นายพรเดช อุยะนันทน์ 7.นางสาวปารณีย์ ชวาลา 8.นายปภิณวิช รอดบางยาง ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของ บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) และยังได้แจ้งดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ด้วย
ทั้งนี้ ตามที่ ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษกลุ่มบุคคลรวม 32 ราย ในฐานะตัวการร่วม กรณีร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในช่วงระหว่างวันที่ 18 ก.ค.-10 พ.ย.65 โดยมีพฤติกรรมการส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ รวมทั้งส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 244/3 (1) และ (2) ประกอบมาตรา 244/5 และมาตรา 244/6 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญาต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.66 นั้น ก.ล.ต.ได้รับการประสานงานจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามนโยบายทำงานเชิงรุกร่วมกัน ให้พิจารณาตรวจสอบบุคคลเพิ่มเติม กรณีอาจมีการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับข้อมูล พบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่สนับสนุนให้เชื่อได้ว่า บุคคลรวม 8 รายข้างต้น ได้ร่วมกับบุคคลที่ ก.ล.ต.กล่าวโทษไปแล้ว กระทำการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 8 ราย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พร้อมกันนี้ ได้แจ้งดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป เนื่องจากความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ด้วย
นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการและโฆษก ก.ล.ต. กล่าวว่า กรณีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ซึ่งกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ที่ทำงานร่วมกับ ก.ล.ต. ตั้งแต่แรก ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ก.ล.ต.และทำงานร่วมกันต่อเนื่อง
วันเดียวกัน ก.ล.ต.ยังได้แจ้งให้ผู้ถือหุ้นกู้ของ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการของบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (Phelps Dodge) ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือยื่นด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจด้วยแบบพิมพ์ของกรมบังคับคดีต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี หรือสำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ตามที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 8 ก.พ.67 ให้ Phelps Dodge ฟื้นฟูกิจการ และตั้งบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้ทำแผน ซึ่งขั้นตอนต่อไปตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ กำหนดให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ภายในเวลา 1 เดือน นับแต่วันที่ลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 มี.ค.67 ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 11 เม.ย.67.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่