จับตาหุ้นโรงพยาบาล คูเวต ระงับส่งคนไข้มารักษา ฉุดลูกค้าต่างชาติลด “บำรุงราษฎร์” กระทบมากสุด

ความสามารถด้านการแพทย์ไทย ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ทำให้คนไข้ต่างชาติเข้ามารักษาพยาบาลในไทยอย่างต่อเนื่อง และถือว่าเป็นหนึ่งของการนำรายได้เข้าประเทศ แต่ล่าสุด คนไข้ต่างชาติเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว 

หลังจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลรอมฎอน อีกทั้งยังได้รับปัจจัยกดดันจากประเด็นรัฐบาลคูเวต ระงับการส่งคนไข้เข้ามารักษาในเมืองไทยเพื่อตรวจสอบคุณภาพการให้บริการ ทำให้หุ้นในกลุ่มนี้อาจได้รับผลกระทบไปด้วย 

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ประเมินว่า รายได้ผู้ป่วยต่างชาติของธุรกิจโรงพยาบาลไทยจะชะลอตัวในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 เนื่องจาก 1 ผู้ป่วยตะวันออกกลางจะลดลงในช่วงรอมฎอน ถึง 21 วันในปีนี้ เทียบกับปีก่อนที่มี 10 วัน และ 2 รัฐบาลคูเวตได้ระงับการส่งผู้ป่วยมาประเทศไทยชั่วคราวเพื่อตรวจสอบบริการ 

โดยประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับหุ้นของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH จะได้รับผลกระทบมากสุด เนื่องจากรายได้จากผู้ป่วยตะวันออกกลางสูงถึง 27% ของรายได้ และ BH มีรายได้ผู้ป่วยคูเวตคิดเป็น 6% ของรายได้ รพ.

ทั้งนี้ จากการประมาณการรายได้ผู้ป่วยต่างชาติของหุ้นในการติดตามของเราคิดเป็น 32% ของรายได้ รพ.ในปี 2567 โดย BH จะมีสัดส่วนที่ 7% สำหรับบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS มีสัดส่วน 27% และบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH มีสัดส่วน 17%  

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ ทาง บล.มีมุมมองที่ดีกับ รพ.ที่อิงกับฐานลูกค้าเมืองไทย โดยการเติบโตของรายได้จากผู้ป่วยไทยสูงกว่า เราคาดกำไรของบริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG จะเติบโต 22% จากปีก่อน, BCH กำไรจะเพิ่มขึ้น 20% และ BDMS กำไรจะเพิ่มขึ้น 11% และ BH กำไรจะเพิ่มขึ้น 2% เราคาดรายได้รวมผู้ป่วยไทยจะเพิ่มขึ้น 8% เทียบกับรายได้ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้นเพียง 6%

รายได้ผู้ป่วยไทยส่วนหนึ่งเพิ่มขึ้นจากคนไข้ประกันสังคม เพิ่มโควตาให้ BCH ขึ้น 20% เป็น 1.86 ล้านคนปีนี้ และ CHG ขึ้น 13% เป็น 0.64 ล้านคน ซึ่งเราคาดว่าจะส่งผลให้ผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้น 4% สำหรับ BCH จะมีผู้ลงทะเบียน 1.06 ล้านคน และ 8% CHG เพิ่มขึ้น 8% มีผู้ลงทะเบียน 0.57 ล้านคน 

นอกจากนี้ คนไข้ประกันสังคม ยังเพิ่มค่าเหมาจ่าย จาก 1,640 บาท เป็น 1,808 บาท/คน/ปี มีผลวันที่ 1 พ.ค. 2023 และครอบคลุมการป้องกันและรักษามากขึ้น เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (สูงสุด 27,000 บาท/กรณี), โปรแกรม 515 (15,000 บาท/DRG จาก 12,000 บาท/DRG), บริการทันตกรรม เคลื่อนที่ (900 บาท/คน/ปี), การปลูกถ่ายเซลล์เพื่อรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว (สูงสุด 1.3 ล้านบาท/เคส) และเพิ่มความถี่ในการตรวจสุขภาพ 4 รายการ จากทุกๆ 3 ปี เป็นทุกปี

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney