จังหวะซื้อ หุ้นก่อสร้าง ครม. จ่อเบิกจ่ายงบปี 67 วงเงิน 3.48 ล้านล้าน จ่ายจบใน 6 เดือน

ใกล้เข้าสู่ช่วงเวลาเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบการปรับวันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท เร็วขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์ ด้านนักวิเคราะห์ฯ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ และทำให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงต้นไตรมาสที่ 2/67 หนุนหุ้นกลุ่มก่อสร้างรับประโยชน์

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประเด็นดังกล่าว ทำให้มีเวลาใช้งบประมาณปี 67 ที่อัดแน่นเพียง 6 เดือนเท่านั้น และคาดทำให้ตัวเลขการเบิกจ่ายภาครัฐ ที่ติดลบติดต่อกัน 6 ไตรมาส สามารถพลิกกับมาฟื้นตัวได้

ทั้งนี้ สอดคล้องกับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ของสภาพัฒน์ ที่อยู่ในช่วง 2.2-3.2% ซึ่งส่วนที่ฟื้นตัวเด่นในปีนี้ คือ การอุปโภคภาครัฐ ที่คาดจะฟื้นตัวเด่น 1.5% จากปี 2566 ที่หดตัว 4.6%

โดยฝ่ายวิจัยได้รวมรวมข้อมูลในอดีต ซึ่งสถิติบ่งชี้ว่า กลุ่มหุ้นที่มักปรับขึ้นเด่น เวลามีการเบิกจ่ายภาครัฐเติบโตเด่น คือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (CONMAT) และกลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง (CONS) ที่ปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นกว่าตลาด

นอกจากนี้ เริ่มเห็นโมเมนตัมประเด็นการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่ใกล้เข้ามา จากการเก็งกำไรของนักลงทุนในวันศุกร์ที่ 15 มี.ค. 67 หนุนกลุ่มหุ้นเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ (STEEL) เพิ่มขึ้น 8.9% กลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง (CONS) เพิ่มขึ้น 1.1% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (CONMAT) เพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยลดลง 0.6%

อย่างไรก็ดี การที่ ครม. เร่งเบิกจ่ายงบประมาณเร็วขึ้น และจะมีผลบังคับใช้ช่วงต้นไตรมาส 2/67 คาดหนุนให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 สดใสอีกครั้ง ส่วนเด่นๆ คือ การอุปโภคภาครัฐ เพราะมีช่วงเวลาในการใช้จ่ายเพียง 6 เดือนเท่านั้น

ดังนั้นกลยุทธ์แนะนำลงทุนหุ้นรับเหมาก่อสร้าง CK, STEC, TTCL, วัสดุก่อสร้าง SCC, SCCC, TASCO รวมถึงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มเหล็ก BSBM, TMT, TSTH, INOX ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าราคาหุ้นจะกลับมาโดดเด่น เมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดอีกครั้ง

ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ตลาดหุ้นในประเทศน่าจะตอบรับในเชิงบวกกับความคืบหน้าของการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 โดยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ คณะรัฐมนตรีได้ปรับเร่งกรอบเวลาของกระบวนการพิจารณางบประมาณรัฐบาล โดยมุ่งเป้าจะลงมติของทั้งสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภาให้เสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม เพื่อที่จะได้ทูลเกล้าภายในต้นเดือนเมษายน ซึ่งจากประเด็นต่างๆ ข้างต้น และราคาหุ้นไทยที่ค่อนข้างถูก ทำให้เราคาดว่าน่าจะมีกระแสเงินทุนไหลเข้าหุ้นจากต่างชาติเพิ่มขึ้นในเดือนนี้

โดยมองว่าหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้า ได้แก่ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนภาครัฐ ซึ่งจะได้อานิสงส์จากความคืบหน้าในกระบวนการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ในเดือนนี้ โดยเลือกหุ้น CK และ STEC

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้ (20-22 มี.ค.) จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระที่ 2-3 ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการเบิกจ่าย และโครงการภาครัฐออกมามากขึ้น

ประเด็นดังกล่าวถือเป็นบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ดังนั้น ยังประเมินเป็นจังหวะย่อตั้งรับหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ 

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney