สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) และการปรับค่าไฟฟ้ารอบใหม่ งวด พ.ค.-ส.ค. 2567 ประกอบด้วย 3 แนวทาง โดยจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้า ต่ำสุดที่ระดับ 4.18 บาท ซึ่งเป็นระดับเดิม และสูงสุดอยู่ที่ระดับ 5.44 บาท นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ มองเป็นปัจจัยหนุนให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ามีโอกาสเติบโตต่อได้
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวทางการปรับอัตราค่าไฟงวดใหม่ คาดอยู่ที่ราว 4.18-5.44 บาท/หน่วย จากเดิม 4.18 บาท/หน่วยในรอบก่อนหน้า โดยจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่ 8-22 มี.ค. 2567 ก่อนจะสรุปผล และประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
โดยแนวทางปรับปรุงค่า FT แบ่งเป็น 3 กรณี ได้แก่
1. จ่ายคืนภาระต้นทุนค้างทั้งหมดในงวดเดียว - ส่งผลให้ค่า FT เพิ่มขึ้นจากเดิมมาอยู่ที่ 165.24 สตางค์/หน่วย โดยเมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาท/หน่วย จะส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 5.44 บาท/หน่วย
2. จ่ายคืนภาระต้นทุนค้างใน 4 งวด - ส่งผลให้ค่า FT เพิ่มขึ้นจากเดิม 16.00 สตางค์/หน่วย มาอยู่ที่ 55.72 สตางค์/หน่วย โดยเมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาท/หน่วย จะส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 4.34 บาท/หน่วย
3. ตรึงค่า FT เท่ากับงวดปัจจุบัน - โดยตรึงค่า FT ไว้ที่ 39.72 บาท/หน่วย โดยเมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาท/หน่วย จะส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเท่ากับงวด ม.ค.-เม.ย. 2567 ที่ 4.18 บาท/หน่วย
ทั้งนี้ ในภาพรวม ถือเป็นมุมมองเชิงบวกต่อผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า SPP ที่มีสัดส่วนขายไฟฟ้าให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมค่อนข้างสูง อาทิ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BGRIM, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น GPSC และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น GULF เนื่องจากค่า FT งวดใหม่มีแนวโน้มคงที่ หรืออาจปรับตัวสูงขึ้นจากงวดก่อนหน้า
ในขณะที่ประมาณการต้นทุนก๊าซธรรมชาติรอบ พ.ค.-ส.ค. 2567 มีแนวโน้มลดลงมาอยู่ราว 300 ล้านบาท/ล้านบีทียู จากเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ที่อยู่ราว 333 บาท/ล้านบีทียู ส่งผลให้ภาพรวมอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ในงวดไตรมาส 2 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ภายใต้สมมติฐานอ้างอิงตามแนวทางค่า FT ทั้ง 3 กรณีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน กกพ. ยังอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน จึงยังต้องรอข้อสรุปเป็นตัวเลขที่เป็นทางการต่อไป รวมถึงต้องติดตามนโยบายจากภาครัฐฯ ว่าจะมีมาตรการปรับลดค่า FT ลงให้ต่ำกว่าแนวทางที่ กกพ. เสนอข้างต้น ด้วยการยืดการชำระหนี้ให้แก่ กฟผ. ออกไป เพื่อช่วยเหลือภาคประชาชนอย่างต่อเนื่องหรือไม่
นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำหาจังหวะทยอยสะสม ลงทุนระยะยาวสำหรับ GULF ที่ราคาเป้าหมาย 63 บาท BGRIM ที่ราคาเป้าหมาย 34 บาท และ GPSC ที่ราคาเป้าหมาย 55 บาท ที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ที่คาดจะเริ่มทยอยปรับตัวลดลง รวมถึงโครงการใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยต่อยอดฐานกำไรให้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
ด้าน บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คาดตลาดจะมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าจากคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 2/67 และไตรมาส 3/67 จากการที่ กกพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) เดือน พ.ค.-ส.ค. 2567 ทั้ง 3 แนวทาง
โดยต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 4.18 บาท สูงสุดอยู่ที่ระดับ 5.44 บาท คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP อาทิ GULF, GPSC และ BGRIM ได้
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้