นักลงทุนต่างให้ความสนใจความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SCB วันนี้ หลังปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยราคาหุ้นปิดตลาดช่วงเช้าอยู่ที่ 111 บาท เพิ่มขึ้น 7 บาท จากราคาปิดวันก่อนหน้า หรือ +6.73% จากบริษัทประกาศจ่ายปันผลงวดปี 2566 เพิ่มขึ้น พร้อมประกาศผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิเติบโตมากกว่า 15%
SCB ได้แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติกำหนดวันประชุม และระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 โดยเห็นควรให้นำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2566 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 10.34 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 34,816 ล้านบาท โดยที่บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 ในอัตราหุ้นละ 2.50 บาท
ดังนั้น บริษัทจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในครั้งนี้อีกหุ้นละ 7.84 บาท โดยการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวให้จ่ายแก่ผู้ถือหุ้นเฉพาะผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามข้อบังคับของบริษัท ตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรัเงินปันผลในวันที่ 18 เมษายน 2567 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2566 ที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 43.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% จากปีก่อนหน้า การเติบโตนี้เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ปรับตัวดีขึ้นตามสภาวะของอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจะเพิ่มขึ้น
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เรายังชอบ SCB ในฐานะธนาคารที่มีความชัดเจนของแผนที่จะเพิ่มอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ในระยะยาว จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น ซึ่งในปีนี้เข้าสู่เฟส 2 ของแผนเติบโตของยานแม่ SCBX ที่จะเน้นเรื่องการขยายธุรกิจและการเพิ่ม Synergy ระหว่างกลุ่มมากขึ้น โดยให้มูลค่าพื้นฐานเดิมปี 2567 ที่ 128 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
สำหรับความเสี่ยงในปี 2567 เป็นเรื่องทิศทางของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่คาดจะเริ่มปรับตัวลง หลังดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้วที่ 2.5% แต่ต้นทุนเงินฝากยังคงปรับขึ้นเรื่อยๆ จากการ Repricing ของเงินฝากประจำ อีกทั้งบริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อเร่งขยายสินเชื่อในกลุ่ม Consumer Finance ในปีนี้
นอกจากนี้ยังมีเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ของ CardX ที่ต้องติดตามผลของการปรับขึ้นอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิตจาก 5% เป็น 8% แต่ผู้บริหารคาดผลกระทบจริงจะค่อนข้างจำกัด เพราะมีสัดส่วนของลูกหนี้ผ่อนชำระขั้นต่ำเพียง 7-8% ของพอร์ต.
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้