ADVICE หุ้นไอพีโอ เทรด 31 ม.ค. 5 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ Easy E-receipt ดันกำไรโต

โดยหนึ่งในนั้น คือ บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ “ADVICE” ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 31 มกราคมนี้ ที่ราคาไอพีโอ 3.24 บาท โดย ADVICE เป็นหุ้นร้านสินค้าไอทีพิมพ์นิยมของนักลงทุน โดย #ThairathMoney จะชวนมาดู 5 ประเด็นที่น่าสนใจของหุ้น ADVICE ที่นักลงทุนควรรู้ก่อนซื้อหุ้น 

เปิดอาณาจักร ADVICE 

ADVICE เป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายปลีก-ส่งสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศ ภายใต้ชื่อ “Advice” ซึ่งเป็นร้านค้าในรูปแบบไอทีซุปเปอร์สโตร์ จำหน่ายสินค้าไอทีที่มีความหลากหลาย โดยจัดจำหน่ายผ่านช่องทางสาขาจำนวน 338 สาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ ยังให้บริการรับเคลมสินค้าที่มีปัญหากับผู้ผลิต และให้บริการซ่อมบำรุง ตรวจเช็กอุปกรณ์ไอทีแบบครบวงจร ซึ่ง ADVICE ไม่ได้มีแค่สาขาในประเทศไทยเท่านั้น บริษัทยังมีสาขาใน สปป.ลาว ด้วย จำนวนทั้งสิ้น 25 สาขา 

ราคาไอพีโอ 3.24 บาท P/E แค่ 7.26 เท่า

การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ ADVICE ได้เสนอขายหุ้นไอพีโอ ที่ราคา 3.24 บาทต่อหุ้น จำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วหลัง IPO 620,000,000 หุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 450,000,000 หุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 170,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวมทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO 310,000,000 บาท 

ทั้งนี้ ราคาไอพีโอในระดับดังกล่าว คิดเป็นระดับอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 7.26 เท่า ซึ่งอยู่ในหมวดธุรกิจเดียวกับบริษัท ได้แก่ 

• บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 มี P/E อยู่ที่ 18.63 เท่า
• บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SIS มี P/E อยู่ที่ 12.37 เท่า
• บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVOA มี P/E อยู่ที่ 13.20 เท่า
• บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มี P/E อยู่ที่ 15.13 เท่า 

คิดเป็นส่วนลดจากค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัทเทียบเคียงโดยตรงราว 46.3%

3 ระดมทุนเพื่อขยายสาขา 

ADVICE เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ จะได้รับเงินทุนหลังหักค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จะมีจำนวนประมาณ 527.3 ล้านบาท โดยเงินลงทุนนี้จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก 

1. ลงทุนขยายธุรกิจ ขยายสาขา และปรับปรุงสาขาเดิม 110 ล้านบาท
2. ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 250 ล้านบาท 
3. เงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อสินค้า และเงินทุนหมุนเวียนกิจการ 117 ล้านบาท 
4. ลงทุนปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 50 ล้านบาท 

นักวิเคราะห์ ให้เป้า 7.05 บาท 

มุมมองนักวิเคราะห์นั้น มองว่าการกำหนดราคาไอพีโอนั้นมีส่วนลดที่ค่อนข้างมาก โดย บล.เอเซีย พลัส ได้ประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 สำหรับ ADVICE ไว้ที่ 7.05 บาท อิง PER ที่ 16.4 เท่า โดยเป็นการให้ส่วนลด 30% จากค่าเฉลี่ย PER ของบริษัทในกลุ่มพาณิชย์ที่ฝ่ายวิจัยศึกษา และเมื่อเทียบกับบริษัทที่จดทะเบียนใน ตลท. และทำธุรกิจใกล้เคียงกับบริษัท คือ COM7 พบว่ามีข้อมูลคาดการณ์ PER ปี 2567 อยู่ที่ราว 15.3 เท่า ขณะที่มีคาดการณ์อัตราเติบโตของกำไรปี 2567 ที่ 12% ซึ่งต่ำกว่าการเติบโตของ ADVICE ซึ่งอยู่ที่ 40%

Easy E-receipt ดันกำไรโตแรง 

ส่วนผลประกอบการของ ADVICE นักวิเคราะห์มองว่าการเติบโตยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดย บล.เอเซีย พลัส มองแนวโน้มกำไรไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ได้แรงหนุนจากผลบวกฤดูกาล แม้ฝ่ายวิจัยเชื่อว่ากำไรในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 น่าจะดีกว่าไตรมาสอื่นๆ เพราะคาดจะได้แรงหนุนจากผลบวกของฤดูกาล ที่โดยปกติแล้วในไตรมาส 4 ของทุกปี เป็นช่วงเทศกาลส่งท้ายปี ที่ผู้บริโภคมักมีการจับจ่ายสูงกว่าช่วงอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคอาจชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ราคาสูงออกไป เป็นช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 แทน เนื่องจากคาดหวังมาตรการของภาครัฐ ที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายอย่าง Easy E-receipt ที่จะมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 67-15 ก.พ. 67 ดังนั้นจึงคาดหวังการเติบโตจากไตรมาสก่อนที่ยังไม่สูงนัก สำหรับไตรมาสที่ 4 ของปี 2566

ส่วนในปี 2567 นั้นมีโอกาสที่บริษัทจะเติบโตได้ โดยสินค้าไอที ซึ่งเป็นสินค้าหลัก มีคาดการณ์การเติบโตสำหรับค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ไอทีทั่วโลกในปี 2566-2567 ด้วยอัตรา -10% และ +4.8% ตามลำดับ จึงคาดว่าการเติบโตของสินค้าไอทีในไทย รวมทั้งสินค้าของ ADVICE จะกลับมาโตอีกครั้งในปี 2567 สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับภาพรวมตลาดโลก - คาดได้ผลบวกจากนโยบายภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2567 เช่น การปรับขึ้นค่าแรง และนโยบาย Easy E-receipt ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 รวมทั้งกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ในช่วงกลางปี - สาขาที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในไทยที่เป็นตลาดหลัก จะช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าเป้าหมายเข้าถึงสินค้าของบริษัทได้มากขึ้น ซึ่งบริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 20 แห่ง ในช่วงปี 2566-2569 เพื่อรองรับการเติบโต 

การรุกขายสินค้าแบรนด์ “Apple” มากขึ้นตั้งแต่ปี 2566 และเตรียมเจรจาเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยหากได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว บริษัทจะเปิดร้าน iStudio by Advice เพื่อจำหน่ายสินค้าได้อย่างเต็มรูปแบบ - ช่องทางออนไลน์ซึ่งมีต้นทุนต่ำ ยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก เพราะคนไทยมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตสูง และมีพฤติกรรมที่จะจับจ่ายซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ประกอบกับยอดผู้เข้าชมสินค้าของบริษัทผ่านเว็บไซต์และแพลตฟอร์มออนไลน์ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้มีการซื้อสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นได้ - นโยบายของบริษัทที่จะขยายฐานกลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งให้มาร์จิ้นสูงกว่าการขายหน้าร้านและการขายส่ง

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney