BTS อ่วม อุบัติเหตุโมโนเรล ชมพู-เหลือง ฉุดกำไรปี 67 โบรกเกอร์เล็งหั่นราคาเป้าหมาย

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

BTS อ่วม อุบัติเหตุโมโนเรล ชมพู-เหลือง ฉุดกำไรปี 67 โบรกเกอร์เล็งหั่นราคาเป้าหมาย

Date Time: 5 ม.ค. 2567 13:44 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

เป็นที่จับตาอย่างมาก สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับ รถไฟฟ้าโมโนเรล ทั้งสายสีชมพู และ สีเหลือง ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ส่งผลกระทบให้บริษัทต้องเปิดการเดินรถฟรี และส่งผลกระทบกับประมาณการกำไรของบริษัทในปี 2567 ให้ลดลง 


 

โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี รายงานว่า เรามองบวกน้อยลงกับ BTS เพราะราคาหุ้นในปัจจุบันเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราที่ 8.50 บาท อีกไม่มากแล้ว และอาจจะมีการปรับลด ประมาณการกำไรลงอีก กรณีที่เกิดขึ้นกับรถไฟฟ้าใหม่สองสาย (ชมพูและเหลือง) จะส่งผลกระทบกับประมาณการกำไรปีในปี 2567 ลดลง 1.7% 

ในขณะที่ผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลงของ VGI ทำให้มีผลขาดทุน 119 ล้านบาทในงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 จากที่เราคาดไว้ว่าจะมีกำไรเต็มปี 1.85 พันล้านบาท ดังนั้น เราจึง จะทบทวนประมาณการกำไรใหม่ เกิดกรณีที่เป็นปัญหาจากการดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง เรามีโอกาสได้คุยกับผู้บริหารของ BTS เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นกับรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (monorail) ทั้งสายสีชมพูและเหลือง โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ 


1 ในส่วนของรถไฟฟ้า สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) เกิดเหตุรางหล่นลงมาที่พื้นในช่วงสถานีสามัคคี ทำให้เกิด ความเสียหายกับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านล่างเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 โดยในขณะนี้ มี 4 สถานี (จากศูนย์ราชการนนทบุรี ถึงสามัคคี) ที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม ซึ่งคาดว่าจะใช้ เวลาดำเนินการซ่อมแซมประมาณหนึ่งเดือน ดังนั้น จึงคาดว่ารถไฟฟ้าสายนี้จะกลับมา เปิดเดินรถเต็มสาย (30 สถานี) ได้ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 แต่แม้จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่รถไฟฟ้าสายสีชมพูยังกลับมาเปิดให้บริการส่วนที่เหลืออีก 26 สถานี และจะเริ่มเก็บค่าโดยสารในวันที่ 7 มกราคม 2024 อย่างไรก็ตาม จะมีการให้ส่วนลดค่า โดยสาร 15% จากอัตราที่กำหนดไว้ที่ 13-38 บาท และจะกลับมาเก็บค่าโดยสารในอัตราปกติเมื่อกลับมาเปิดให้บริการครบทุกสถานีในเดือนกุมภาพันธ์ 

2 ส่วนในกรณีของ สายสีเหลือง เกิดเหตุล้อรถขบวนหนึ่งหล่นลงมาที่พื้นเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2024 ทำให้มี การตรวจสอบรถไฟฟ้าทุกขบวนเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 2-7 มกราคม 2024 โดยจะกลับมาเดินรถตามปกติในวันที่ 8 มกราคม 2024 ซึ่งในช่วงที่ทำ การตรวจสอบจะทำให้ระยะเวลาในการรอรถนานขึ้นจาก 10 นาทีเป็น 30 นาที 

ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจงดเก็บค่าโดยสารในช่วงที่ทำการตรวจสอบขบวนรถ ประมาณการกำไรปี 2567 ยังมี downside อีก เมื่ออิงตามสมมติฐานของเรา รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (เริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 3 กรกฎาคม 2023) จะส่งผลขาดทุนมาที่ BTS 500 ล้านบาทในปี 2567 อิงจากจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย รายวันที่ 50,000 เที่ยว โดยการเปิดให้บริการฟรีเป็นเวลาห้าวันในช่วงทดสอบ (2-7 มกราคม) จะทำให้มีผลขาดทุนเพิ่มอีก 8.2ล้านบาท คิดเป็น 0.4% ของประมาณการกำไร ปี 2567


ส่วนในกรณีของรถไฟฟ้าสายสีชมพู เราคาดว่าจะมีผลขาดทุน 125 ล้านบาทในปี 2567 (สามเดือน) อิงจากจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยรายวันที่ 53,000 เที่ยว และมีการคิดค่า โดยสารในอัตราปกติ แต่เมื่อมีการให้ส่วนลดค่าโดยสาร 15% จะทำให้รถไฟฟ้าสายสีชมพูมี ผลขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก 23.8 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 (คิดเป็น 1.3% ของประมาณการกำไรปี 2567) ถึงแม้ว่ากรณีที่เกิดกับรถไฟฟ้าทั้งสองสายจะทำให้กำไรมี downside เพียงเล็กน้อย แต่เนื่องจากบริษัทมีผลขาดทุนจากธุรกิจหลัก 119 ล้านบาทในครึ่งปีแรก ของ 2567 


ในขณะที่เราคาด ว่ากำไรเต็มปีจะอยู่ที่ 1.85 พันล้านบาท เราจึงจะทบทวนประมาณการกำไรของเราใหม่อีก ครั้งตอนออกบทวิเคราะห์ประมาณการกำไรไตรมาสที่ 4 ปี 2567 แนะนำซื้อ โดยประเมินราคเป้าหมายที่ 8.50 บาท ถึงแม้ว่าเราจะแนะนำซื้อ แต่เรามองบวกน้อยลงกับ BTS เพราะเหลือ upside ถึงราคา เป้าหมายของเราอีกไม่มาก และอาจจะมีการปรับลดประมาณการกำไรลงอีก


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ