อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2566 ที่ผ่านมา เป็นปีที่น่าผิดหวังสำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ให้ผลตอบแทนติดลบ 15% ต่ำเกือบที่สุดในโลก อย่างไรก็ดี บล.ทิสโก้ มองภาพรวมการลงทุนหุ้นไทยในปี 2567 ดีขึ้น บล.ทิสโก้ ตั้งเป้า SET Index สิ้นปี 2567 ไว้ที่ 1,550 จุด จาก 5 ปัจจัยสนับสนุน ดังนี้
แม้ บล.ทิสโก้ มองภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 2567 ดีขึ้น แต่นักลงทุนยังต้องระมัดระวังความผันผวนในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากความล่าช้างบประมาณปี 2567 ทำให้เศรษฐกิจในประเทศช่วง 3-4 เดือนแรกของปีนี้ยังขาดแรงส่งที่สำคัญ นอกจากนี้ บล.ทิสโก้ ห่วงว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเกิดการปรับฐานหลังจากที่ขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีที่แล้ว โดยตลาดอาจคาดหวังไว้สูงเกินไปเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะเกิดขึ้นเร็วที่สุดในการประชุมเดือนมีนาคม และยังคาดหวังว่าจะลดลงมากถึง 6 ครั้งในปี 2567 หรือ -150 bps vs Dot Plot ของ Fed ล่าสุดในเดือนธันวาคม ที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 3 ครั้ง หรือ -75 bps โดยคาดว่า Fed จะเลือกคงดอกเบี้ยตลอดช่วงครึ่งปีแรก และจะเริ่มลดดอกเบี้ยลงเมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เปราะบาง ทำให้ตลาดประเมิน Nominal GDP และ Real GDP Growth ปี 2567 จะเติบโตชะลอลงเป็น 3.7% และ 1% ตามลำดับ สวนทางกับกำไรของสหรัฐฯ ในปี 2567 ที่คาดว่าจะโตสูงถึง 12% ซึ่งไม่สอดคล้องกับความสัมพันธ์ในอดีตที่การเติบโตของเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนจะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน และมีความสอดคล้องกัน หากอัตราการเติบโตเศรษฐกิจอยู่ที่ 3.7% กำไรมักจะโตเพียง 4-5% เท่านั้น ชี้ว่าคาดการณ์กำไรของสหรัฐฯ ในปัจจุบันนั้นอาจสูงเกินไป เสี่ยงถูกปรับลงในระยะข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม แม้ดัชนีหุ้นไทยครึ่งปีแรกยังคาดหวังเชิงบวกได้ไม่มาก แต่โอกาสการลงทุนมีอยู่เสมอ หากเลือกได้ถูกตัว-ถูกจังหวะ บล.ทิสโก้ มองช่วงเวลานี้เป็นจังหวะในการสะสมหุ้นที่คาดจะจ่ายเงินปันผลเด่น แนะนำ AP, KTB, SCB, SCCC, SIRI, TASCO ผสานกับหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการ E-Receipt และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แนะนำ CPALL, CRC เพราะฉะนั้น หุ้นเด่นที่ บล.ทิสโก้ แนะนำในเดือนมกราคม คือ AP, CPALL, CRC, KTB, SCB, SCCC, SIRI และ TASCO ด้านแนวรับสำคัญของหุ้นไทยเดือนมกราคมอยู่ที่ 1390 จุด และแนวรับต่อไปที่ 1,365-1,370 จุด และ 1,355 จุด ตามลำดับ และแนวต้านสำคัญของ SET Index เดือนนี้อยู่ที่ 1,420-1,430 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,460-1,470 จุด ตามลำดับ
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่