หุ้นเคอรี่ KEX พุ่งชนซิลลิ่ง หวังผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่พลิกกำไรฟื้น จับตาพื้นฐานอาจเปลี่ยน

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น KEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30.57% หรือเพิ่มขึ้น 1.51 บาท มาอยู่ที่ 6.45 บาท หลังบริษัทแจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ที่อาจจะมีขึ้นจากการประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลพิเศษ แบบมีเงื่อนไขด้วยหุ้นของบริษัท โดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทางอ้อมของบริษัท และการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท

โดยภายหลังจากกระบวนการทำธุรกรรมตามประกาศของ Kerry Logistics Network Limited (KLN) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทางอ้อม ผ่านบริษัท เคแอลเอ็น โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (KLNTH) แล้วเสร็จตามเงื่อนไข จะทำให้บริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (SFTH) ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นของบริษัทจำนวน 1,000 หุ้นนั้น จะเข้าถือหุ้นของบริษัทอีกจำนวน 467,373,855 หุ้น หรือคิดเป็น 26.8% ของหุ้นทั้งหมด ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่ง และมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทต่อไป

ทั้งนี้ ตามประกาศของ KLN SFTH FHHL และ SF Holding (HK) Limited (บริษัทย่อยของ S.F. Holding Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่มีหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ได้ตกลงยืนยันว่า หากเงื่อนไขของธุรกรรมบรรลุผล SFTH จะยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในสามวันทำการนับแต่วันที่เงื่อนไขบรรลุผล และจะเริ่มรับซื้อหลักทรัพย์ในราคาเสนอซื้อที่ 5.50 บาทต่อหุ้น ภายในสามวันทำการหลังจากวันที่ยื่นคำเสนอซื้อตามที่กฎหมายกำหนด 

กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้น KEX ปรับตัวขึ้นมาวันนี้ มาจากประเด็นการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ และการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์แก่ผู้ถือหุ้นทั่วไปที่ราคา 5.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาพรีเมียมจากราคาตลาดเมื่อสิ้นปี 2566 ที่ 4.90 บาท ราว 11% ประกอบกับความคาดหวังเชิงบวกของนักลงทุนที่มองว่าการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นในระยะถัดไป จากเดิมที่มีผลประกอบการขาดทุน

ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนให้ค่อยๆ ประเมินโอกาสการฟื้นตัวของผลประกอบการ ว่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เพราะราคาหุ้นของ KEX ปรับตัวลงมามากจากปี 2566 หากมีมุมที่ตลาดเห็นสัญญาณว่าผลตอบแทนจะฟื้นตัว ก็เป็นโอกาสในการเข้าเก็งกำไรก่อน เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวในระยะกลาง-ยาว

“ต้องประเมินให้ดีว่า โครงสร้างใหม่ของ KEX จะทำให้มีผลประกอบการที่เป็นบวกได้ไหม ขณะที่อุตสาหกรรมขนส่งมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง ต้องพยายามประเมินเรื่อง Core Value Business ของตัวบริษัทให้ดี” กรภัทร กล่าว

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment