กองทุน THAI ESG เริ่มขายวันแรก ดันเม็ดเงินหนุนหุ้นไทย ลุ้นดัชนีโค้งสุดท้ายทะลุ 1,400 จุด

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

กองทุน THAI ESG เริ่มขายวันแรก ดันเม็ดเงินหนุนหุ้นไทย ลุ้นดัชนีโค้งสุดท้ายทะลุ 1,400 จุด

Date Time: 8 ธ.ค. 2566 14:14 น.

Video

บิทคอยน์ VS เงินในกระเป๋าเกี่ยวกันยังไง ? | Digital Frontiers

Summary

  • สำหรับการเสนอขายกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือกองทุน Thailand ESG Fund (TESG) นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทย 10,000 ล้านบาท มีโอกาสดันดัชนีทำระดับสูงกว่า 1,400 จุด ในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม

เริ่มแล้ว สำหรับการเสนอขายกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือกองทุน Thailand ESG Fund (TESG) เป็นวันแรก นักวิเคราะห์หลักทรัพย์คาดเม็ดเงินจากกองทุนเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย และช่วยพยุงหุ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ซึ่งก.ล.ต. ได้เปิดเผยการรับคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวม Thailand ESG Fund ชุดแรก จำนวน 22 กองทุน จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) 16 แห่ง


อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จํากัด กล่าวว่า การเสนอขายกองทุน Thailand ESG Fund (TESG) นั้นเป็นไปตามกำหนดการ และจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ในการรอให้เม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทย โดยประเมินว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าราว 10,000 ล้านบาท เป็นปัจจัยที่จะสามารถขับเคลื่อนราคาหุ้นให้ฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม


ขณะเดียวกัน มองว่าช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม นักลงทุนต่างชาติจะชะลอการขายหุ้นไทย หรือพักการซื้อขาย เนื่องจากเป็นช่วงที่จะเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส อาจทำให้นักลงทุนในประเทศกลับมามีอิทธิพลกับตลาดหุ้นไทยมากกว่านักลงทุนต่างชาติ

สำหรับทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี 2566 มองว่าอาจปรับตัวขึ้นได้สลับกับการย่อตัว แต่ในภาพรวมจะสามารถยืนเหนือระดับ 1,360 จุด ได้ และในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคมมีโอกาสที่ดัชนีจะทำระดับสูงกว่า 1,400 จุด


นอกจากนี้ ยังแนะนำนักลงทุน ในการเลือกลงทุนหุ้นที่มีการประเมินหุ้นยั่งยืน หรือ SET ESG Ratings มากกว่า A ขึ้นไป และเป็นหุ้นที่ให้ปันผลสูง เนื่องจากเชื่อว่าเป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบันและกองทุนในประเทศ ที่จะเลือกลงทุน โดยเฉพาะหุ้นที่มีสภาพคล่องซื้อขายสูง ราคาหุ้นตกมาเยอะ และมีระดับเรตติ้งที่ดี


ด้าน บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยปี นี้ปรับตัวลงกว่า -17% จากต้นปี แย่กว่าตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย +14% จากต้นปี ดังนั้นภาครัฐฯ เริ่มกลับมาให้น้ำหนักต่อมาตรการต่างๆ ที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นต่อการลงทุน รวมถึงพยุงหุ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี


จึงได้มีการอนุมัติการออกกองทุน Thailand ESG Fund (TESG) ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการลงทุนในหุ้นไทยที่มี ESG โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษี ได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินและไม่เกิน 1 แสนบาท แต่ต้องถือครองหน่วยลงทุนต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 8 ปีเต็ม โดยเราคาดว่าจะมีเม็ดเงินราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดจะช่วยพยุงดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้


ขณะเดียวกัน คาดกองทุน TESG จะเป็นการกระจายการลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET ESG Rating ซึ่งมีหุ้นทั้งสิ้นราว 193 บริษัท โดยในเบื้องต้นเราได้ คัดกรองหุ้นที่มีโอกาสจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุน TESG โดยเราได้กำหนด Criteria 4 ข้อ ดังนี้ 1) เป็นหุ้นที่มี ESG Rating ในระดับ “AAA” หรือ “AA” 2) มีสภาพคล่องสูง (ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา สูงกว่า 50 ล้านบาท) 3) กำไรต่อหุ้นปี 2024 เติบโตสูงกว่า 10% และ 4) PE Ratio ปี 2024 อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PE Ratio 10 ปี ย้อนหลัง โดยจากการคัดกรองเราได้หุ้นที่ผ่านเกณฑ์ทั้งสิ้น 24 หุ้น


จากเกณฑ์การประเมินหุ้นเบื้องต้นพบว่ามีหุ้นที่ผ่านเกณฑ์ทั้งสิ้น 24 หุ้น จาก Coverage ของ SET ESG Rating ทั้ง 193 บริษัท โดยหากเราพิจารณาเพิ่มเติมจากธีมการลงทุนที่น่าสนใจ และภาพธุรกิจเฉพาะตัว เราแนะนำสะสม 4 หุ้นเด่น ได้แก่ CPALL, CRC, GPSC, WHA


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ