บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TNL บริษัทในเครือสหพัฒน์ ผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปและเครื่องหนัง ภายใต้แบรนด์ ARROW, Guy Laroche, DAKS, ELLE ลุยปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ เร่งเดินเครื่องยนต์ 3 ธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจการเงิน ซึ่งประกอบไปด้วย ธุรกิจให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่มีหลักประกัน (Asset Financing) และธุรกิจการเงินประเภทธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) และนอกจากนี้ ยังมีธุรกิจการลงทุนในบริษัทร่วมทุนเพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายด้วย
นันทวัฒน์ สุรวัติเสถียร หัวหน้าคณะผู้บริหาร สายงานการเงิน เปิดเผยว่า การเพิ่ม 3 ธุรกิจใหม่ดังกล่าว สามารถสร้าง Synergy ภายในกลุ่มบริษัทได้ และเป็นการกระจายความเสี่ยง เราเชื่อว่าการที่บริษัทมีธุรกิจ “Asset Financing” ซึ่งมีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันหลัก และมีธุรกิจ AMC ที่เน้นสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีหลักประกัน รวมถึงการมีธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ทำให้กลุ่มบริษัทมีเครือข่ายและแชร์ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งและความร่วมมือที่ช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับบริษัทในระยะยาว ซึ่งได้เริ่มสะท้อนให้เห็นจากผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการในปี 2567 จะสามารถเติบโตได้จากปีนี้ หลังเริ่มรับรู้กำไรของธุรกิจใหม่เข้ามา พร้อมตั้งเป้าในการผลักดันธุรกิจใหม่ ให้มีสัดส่วนรายได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากสามารถทำอัตรากำไรได้ในระดับสูง จากปัจจุบันโครงสร้างรายได้ของบริษัทมาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปและเครื่องหนังราว 70%
พร้อมกันนี้ บริษัทวางงบลงทุนสำหรับปี 2567 ไว้ราว 2,000-3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจการเงิน จากการปล่อยสินเชื่อและลงทุนในพอร์ตหนี้เสียเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทเชื่อว่าธุรกิจการเงินยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากปัจจุบันบริษัทยังมีขนาดธุรกิจที่ไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดในภาพรวม
บริษัทยังติดตามสภาวะเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีปัจจัยท้าทายอีกมาก โดยวางแผนการเติบโตไว้อย่าง “ระมัดระวัง” เช่น การปล่อยสินเชื่อใหม่ที่มีอัตราส่วนการให้สินเชื่อโดยเทียบกับมูลค่าหลักประกัน (LTV) ต่ำลงในปีหน้า จากปัจจุบันที่ 50% ของมูลค่าหลักประกัน เพื่อบริหารความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม นอกจากจะให้ความสำคัญกับการผลักดันธุรกิจให้เติบโตแล้ว ผู้บริหารและทีมงานยังคงตระหนักและให้ความสำคัญถึงการดำเนินงานของบริษัท โดยยึดหลักการประกอบธุรกิจที่ยั่งยืนตามหลัก ESG และมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม โดยล่าสุด TNL ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว ในการประเมินการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CGR) ของบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2566
ปัจจุบัน TNL มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัก คือ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (หรือ SPI) และ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (หรือ BTSG) ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TNL ทั้งสองรายมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่ดีที่จะช่วยส่งเสริมให้ TNL เป็นองค์กรที่พร้อมเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งในธุรกิจใหม่นี้ จากการที่ TNL ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากผู้ถือหุ้น ปัจจุบัน TNL มีฐานทุนกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 0.21 เท่า (ณ 30 กันยายน 2566) แม้ว่าการปรับโครงสร้างองค์กรและโครงสร้างธุรกิจจะเพิ่งเริ่มต้นขึ้น แต่ TNL มีผู้บริหารและทีมงานที่มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจใหม่ของบริษัท ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้ TNL เป็นผู้เล่นรายสำคัญในอุตสาหกรรมได้ในอนาคต