RATCH กำไรหด 47% เหลือ 1.18 พันล้าน หยุดซ่อมโรงไฟฟ้าหงสา ต้นทุนดอกเบี้ยพุ่งถล่มซ้ำ

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

RATCH กำไรหด 47% เหลือ 1.18 พันล้าน หยุดซ่อมโรงไฟฟ้าหงสา ต้นทุนดอกเบี้ยพุ่งถล่มซ้ำ

Date Time: 14 พ.ย. 2566 10:24 น.

Video

ศิรเดช โทณวณิก Gen 3 ดุสิตธานี ธุรกิจที่เป็นมากกว่าโรงแรม | On The Rise

Summary

  • RATCH รายงานกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3/66 อยู่ที่ 1,182 ล้านบาท ลดลง 47.41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการหยุดซ่อมบำรุงรักษาตามแผนของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนหงสา (HPC) รวมทั้งต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น จากเงินกู้ยืมสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในการลงทุนในโครงการต่างๆ และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น RATCH รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทมีกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3/66 อยู่ที่ 1,182 ล้านบาท ลดลง 47.41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 2,248 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 3 และงวด 9 เดือน ปี 2566 หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) บริษัทฯ มีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทฯ จำนวน 1,174 ล้านบาท และ 4,612 ล้านบาท ตามลำดับ ลดลงอันเป็นผลมาจากการหยุดซ่อมบำรุงรักษาตามแผนของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนหงสา (HPC) รวมทั้งต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น จากเงินกู้ยืมสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในการลงทุนในโครงการต่างๆ และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น


ขณะที่กำไรจากโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ได้แก่ โรงไฟฟ้านวนคร (NNEG), บริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) (SCG) และโรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่น (RCO) เพิ่มสูงขึ้น จากราคาค่าเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลงและค่า Ft ที่ปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทฯ รับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานลม Lincoln Gap 1 และ 2 ในประเทศออสเตรเลีย (LG1&2), โรงไฟฟ้าก๊าซ Snapper Point (SP), โรงไฟฟ้าพลังน้ำ Coc San ในเวียดนาม (CS) และโรงไฟฟ้าราช เอ็นเนอร์จี ระยอง (RER)


ในไตรมาสที่ 3/66 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 10,643 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมรายได้ค่าเชื้อเพลิง (pass-through) รายได้รวมลดลง ร้อยละ 12.4 จากไตรมาสก่อน และลดลง 8.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนหงสา (HPC) ลดลง จากการหยุดซ่อมบำรุงรักษาตามแผน เพื่อรักษาประสิทธิภาพการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้า และคงความสามารถในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรายได้ค่าขายไฟฟ้าของบริษัท ราช โคเจนเนอเรชั่น จำกัด หรือ RCO และบริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ลดลงจากราคาค่าเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2566


อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลม Lincoln Gap 1 และ 2 ในประเทศออสเตรเลีย (LG1&2), โรงไฟฟ้าก๊าซ Snapper Point (SP) และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Coc San ในเวียดนาม (CS) รวมถึงรับรู้รายได้ค่าขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าราช เอ็นเนอร์จี ระยอง (RER) จากการเปลี่ยนสถานะจากการร่วมค้าเป็นบริษัทย่อย ภายหลังจากบริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอเปอเรชั่น จำกัด หรือ RHIS เข้าซื้อหุ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2565


ทั้งนี้ บริษัทฯ มี EBITDA ในไตรมาสที่ 3/66 เท่ากับ 3,331 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18.7 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 17.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากบริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก HPC ลดลง จากการหยุดซ่อมบำรุงรักษาตามแผน ในขณะที่บริษัทฯ เริ่มรับรู้ EBITDA จากโรงไฟฟ้า LG1&2, SP, CS และ RER รวมทั้งรับรู้ EBITDA จากโรงไฟฟ้า SCG RCO และ NNEG เพิ่มขึ้นจากค่า Ft ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อน


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ